
Drama Queen & Dump King
The story after that. - ต้นน้ำ
ในที่สุดก็ถึงวันที่เตอร์รอคอยครับ เด็กขี้เกียจอย่างเตอร์ยอมลุกตั้งแต่หกโมง เกือบจะลากผมออกจากบ้านตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมงดี ให้ตายเถอะ! ในงานเกมมันมีอะไรน่าสนใจขนาดนั้นครับ? ปกติงานพวกนี้เขาเปิดกันสิบโมงสิบเอ็ดโมงไม่ใช่หรือไง? แถมเพราะงานมันจัดไกลมาก เดินทางลำบาก ผมก็เลยต้องขับรถพาเตอร์ไป ผมไม่ได้ขับรถนานแล้ว แอบกลัวเหมือนกันนะครับเนี่ย ไม่มั่นใจเลยครับ
ลงท้ายผมก็ถึงสถานที่จัดงานได้โดยสวัสดิภาพ แม้ว่าจะเสียเวลาหลงทางอยู่เป็นชั่วโมง เดือดร้อนเตอร์ต้องโทรหาเพื่อนรุ่นพี่เพื่อถามทาง แต่ตอนที่เตอร์ส่งโทรศัพท์ให้ผมคุย ผมว่าผมคุ้นๆ เสียงนั้นนะครับ
ผมอุตส่าคิดว่าตัวเองเตรียมพร้อมดูเส้นทางมาจากในเน็ทแล้วเชียว แต่ผมลืมไปว่าบางทีเส้นทางมันก็ปรับเปลี่ยนกันได้ โดยเฉพาะพวกแยกที่ห้ามเลี้ยวห้ามยูเทิร์นบังคับเลี้ยวทำนองนั้น เดาใจจราจรไม่ถูกหรอกครับ เพราะฉะนั้นกว่าผมจะมาถึงงานได้ก็รู้สึกแย่พอสมควร อกสั่นขวัญแขวนไปหมดเลยครับ แต่ผมไม่กล้าบอกเตอร์หรอกนะ กลัวเตอร์ตกใจถ้ารู้ว่าผมพาหลง ก็ผมไม่ได้ขับรถบ่อยๆ จนเชี่ยวชาญเรื่องถนนหนทางเหมือนพี่ชัชนี่ครับ แต่ต้องนับถือเตอร์เลยที่ฉลาดและแก้ปัญหาเก่งมากๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเตอร์บอกให้ผมจอดรถแล้วตัดสินใจโทรถามทางป่านนี้คงหลงไปไกลกว่านั้นแล้ว
พอผมหาที่จอดรถได้ เตอร์ก็แทบจะลากผมตรงไปยังทางเข้างาน เตอร์ยื่นบัตรเข้างานให้ผมหนึ่งใบ แล้วก็ขอตัวไปซื้อบัตรเข้างานของตัวเอง ผมพึ่งรู้ว่างานแบบนี้ต้องซื้อบัตรเข้างานด้วย ราคาแพงเอาเรื่องเหมือนกันนะนั่น กับอีแค่งานเกมทำไมถึงเก็บค่าเข้างานเป็นร้อย? แต่ผมไม่กล้าบ่นหรอกครับ แต่เห็นสีหน้าเตอร์ที่ยิ้มจนแก้มปรินั่นก็ดุไม่ลงแล้ว แต่หน้าบานได้ไม่นานเท่าไหร่ก็จ๋อยครับ ผมเห็นเตอร์บ่นเซ็งที่ไปลงทะเบียนอะไรซักอย่างไม่ทัน ผมมารู้ทีหลังว่าเขามาลงทะเบียนซื้ออุปกรณ์เกมราคาชิ้นละหนึ่งบาทกัน ก็น่าเสียดายจริงๆ นั่นแหละครับ เห็นเขาว่ากันว่าคนที่มาคนแรกมารอตั้งแต่ตีสี่แน่ะครับ เชื่อเขาเลย! แต่สิ่งที่เหลือเชื่อมากไปกว่านั้นคือเม้าส์กับคีย์บอร์ดบ้าอะไรราคาอันละหลายพัน! ผมจะเป็นลม!
ในงานเสียงดังมากจนผมรู้สึกรำคาญ แสงสีเสียงดังสนั่นวูบวาบลายตาไปหมดเลยครับ พวกแต่งตัวแปลกๆ เดินกันให้ควั่ก ผมนึกว่ามีแต่พวกพริตตี้งานเกมซะอีก แต่เตอร์บอกผมว่าเขามีประกวดคอสเพลย์ด้วย ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจกลุ่มคนที่เรียกว่าคอสเพลย์มากเท่าไหร่ คงประมาณคนที่แต่งตัวเลียนแบบการ์ตูนใช่มั้ยครับ? เพราะเสียงมันดังมาก ผมก็เลยฟังที่เตอร์อธิบายรู้เรื่องบ้างไม่ได้ยินบ้าง แต่ที่ผมรู้แน่ๆ ก็คือ ระดับความโป๊ของพริตตี้งานเกมนี่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่างานมอเตอร์โชว์เลยครับ แต่ละบูธขนพริตตี้ในชุดวาบหวิวมาเรียกลูกค้ากันสุดๆ ตากล้องหื่นกามก็ทั้งถ่ายช้อนถ่ายซูมน่าเกลียดเป็นบ้าเลยครับ แถมหลานผมยังทำเนียนเอามือถือไปยืนถ่ายกับเขาด้วยเหมือนกัน! ถ้าผมรู้ว่างานเกมมีอะไรแบบนี้นะ ผมไม่พาเตอร์มาหรอก!
ผมได้แต่เดินตามเตอร์เข้าบูธโน้นออกบูธนี้ไปเรื่อยๆ บางบูธก็มีคนต่อแถวกันยาวมากครับ คนแน่นมากๆ แน่นอนว่าหลานชายผมก็เป็นหนึ่งในนั้น มีของแจกกี่บูธกี่แถว หลานผมเก็บหมด! ถุงปั้มตราโลโก้ลายเกมต่างๆ มีกี่แบบเตอร์ไม่พลาดซักแบบ พอผมถามว่าจะเอาไปทำไมเยอะแยะ เตอร์ก็บอกว่ามันเป็นของพรีเมี่ยมครับ ต้องสะสม ผมก็ไม่เข้าใจนะว่าจะสะสมไปทำไม? จะถุงไหนๆ ถ้ามันใช้ใส่ของได้ก็คือถุงน่ะแหละครับ แล้วถุงกระดาษอาบมันแบบนี้ใช่ว่าจะใช้ทน ผมว่ามันก็คือๆ กันกับถุงแจกของบริษัทยานั่นแหละ
ระหว่างที่ยืนรอต่อแถวเป็นเพื่อนเตอร์ผมก็มองไปเรื่อยๆ จนสะดุดตาเข้ากับป้ายโปรโมชั่นในบูทของเกมนี้ พอดูรายการแล้วผมก็ต้องตกใจ ทำไมแพงจังเลยครับ? บางอันเกือบพันแน่ะ! ขายได้เหรอครับนั่น? ผมเห็นบางคนยังเป็นแค่เด็กประถมด้วยซ้ำ เด็กพวกนั้นเอาเงินมาจากไหนกันนะ แล้วพวกคนที่กล้าเติมเงินในเกมเป็นพันๆ นี่คิดยังไง เป็นผมๆ ไม่กล้าทำแน่ๆ ครับ ตอนเด็กๆ แม่ผมทำงานเหนื่อยแทบตายกว่าจะได้เงินมา ผมไม่กล้าใช้สุรุ่ยสุร่ายหรอก ยิ่งตอนนี้ผมอยู่กับพี่ชัช ผมก็เห็นว่าพี่ชัชต้องทำงานหนักขนาดไหน ผมไม่กล้าใช้เงินไปกับเรื่องไร้สาระหรอกครับ
“เตอร์ เราเติมเงินในเกมด้วยรึเปล่า?”
เตอร์ดูจะแปลกใจที่ผมชวนคุย สีหน้าของเตอร์เลยดูประหลาดๆ ทั้งแปลกใจ ทั้งอึดอัด จนในที่สุดก็อ้อมแอ้มตอบออกมา
“ก็มีบ้าง นิดหน่อยน่ะพี่ต้น”
“แล้วเราเอาเงินมาจากไหน”
“ก็เก็บจากค่าขนมที่เหลือไง”
เตอร์รีบชิงตอบผมก่อนที่ผมจะเทศน์ยาว
“โห พี่ต้นไม่ต้องห่วงหรอกคร้าบ ผมไม่ได้เติมเยอะถ้าจะเติมก็เก็บตังค์เอง แถมส่วนใหญ่ผมเล่นฟรีมากกว่า ไม่ทำให้พ่อเดือดร้อนหรอก”
เตอร์กอดผม ตอนที่แก้ตัวเตอร์ก็อ้อนผมไปด้วย คงเพราะเรายืนอยู่ใกล้กัน เตอร์ก็เลยเผลอยกแขนขึ้นโอบผมแล้วก็อ้อนเอาหัวมาไถผมตามปกติ แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ปกตินี่ครับ ผมอายเขา! ผมเลยเอาศอกถองเตอร์ไปเบาๆ
“โอ๊ย พี่ต้น แค่นี้ไม่เห็นต้องโกรธจนศอกผมเลย!”
“ก็เล่นให้มันดูหน่อย คนตั้งเยอะ พี่อายเขา”
เตอร์ทำหน้าเหมือนพึ่งนึกได้แล้วก็รีบแก้ตัวทันทีครับ แต่ไม่ทันแล้วล่ะ ผมเห็นผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังผมกับเตอร์มองพวกเราแปลกๆ แล้ว
“ก็อ้อนพี่ชายนิดเดียว มันจะเป็นไรไป ผมยังเป็นเด็กอยู่ ไม่น่าเกลียดหรอก”
ก็ถ้าเตอร์เป็นเด็กตัวเล็กๆ น่ะไม่น่าเกลียดหรอกครับ แต่ดูสิ เด็กที่ผมเห็นนี่ถึงจะอายุสิบสี่ย่างสิบห้า ยังเป็นเด็กชายอยู่แต่ว่าตัวสูงชะมัดเลย สูงตั้ง 177 เซ็นติเมตร ตัวโตกว่าผมอีก แถมไม่ใช่แค่สูงอย่างเดียวด้วยนะครับ ทั้งกล้ามทั้งไหล่ดูบึกบึนกว่าผมอีก แล้วแบบนี้มันดูเหมือนเด็กตรงไหนกันครับ? ผมไม่คิดว่าคนอื่นจะมองเราเป็นพี่กับน้องหรอก เพราะผมกับเตอร์หน้าก็ไม่ได้คล้ายกัน
กว่าผมจะกับเตอร์จะเสร็จธุระตรงนั้นหลุดจากการต่อแถวยาวๆ แบบนั้นมาได้ก็ยืนจนเมื่อยครับ ใกล้เที่ยงแล้วด้วย ผมตั้งใจว่าจะชวนเตอร์ไปหาอะไรกิน แต่เตอร์บอกว่าในฮอลก็มีของกินขายครับ เตอร์พาผมเดินไปทางซุ้มที่ขาย... มาม่า?
“ผมไม่ค่อยหิวอ่ะพี่ต้น อีกเดี๋ยวคอสจะขึ้นเวทีแล้วด้วย ผมนัดกับเพื่อนไว้แล้วว่าตอนเย็นจะไปกินบุฟเฟ่กัน พี่ต้นกินนี่ก่อนนะ”
ผมหงุดหงิดนะ ทำไมผมจะต้องมาทนลำบากลำบนในงานไร้สาระแบบนี้แล้วก็อดทานข้าวกลางวันด้วยครับ!
“น่านะ นะ พี่ต้น เพื่อนผมบอกว่ามื้อเย็นจะไปร้านอาหารญี่ปุ่นกัน อร่อยมากๆ ผมอยากเก็บท้องไว้กินมื้อเย็นรวดเดียวเลยอ่ะ”
“แล้วทำไมไม่บอกพี่ก่อน พี่อยากไปทานบุฟเฟ่กับกับเราซะที่ไหน”
“โหย ผมไปไหนพี่ต้นก็ต้องไปกับผมอยู่แล้ว น่านะ นะคร้าบ พี่ต้น ตามใจหลานหน่อยน้า”
ผมจะทำอะไรได้อีกละครับ นอกจากเลยตามเลย ก็เตอร์มัดมือชกผมแบบนี้แล้ว ผมว่าผมคุ้นๆ วิธีแบบนี้นะครับ
“ทีหลังอย่าทำอะไรแบบนี้อีกนะ พี่ไม่ชอบ บอกกันก่อนซักคำก็ได้”
“ผมรู้อยู่แล้วว่าลงท้ายพี่ก็ต้องตามใจผม รักพี่ต้นที่สุดเลยคร้าบ ฮ่าๆ”
ลงท้ายผมก็เลยต้องทานอะไรแถวๆ นั้นแหละครับ โชคดีจังที่มีพวกแซนวิชขายด้วย ผมชอบแซนวิชมากกว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพวกนั้นครับ
“แซนวิชพี่ต้นน่ากินจัง ขอคำดิ่”
“แย่งพี่ แล้วไส้กรอกกับมาม่าเราล่ะ”
“มันไม่อิ่มอ่ะ”
ผมยิ้มออกมาทันทีครับ เตอร์เนี่ยน้า
“ไหนบอกจะเก็บท้องไว้กินบุฟเฟ่ตอนเย็นไง”
“โหย ได้ที ข่มใหญ่เลยนะพี่ต้น ใจร้ายอ่ะ”
เพราะเห็นเตอร์ทำหน้ามุ่ยแล้วก็แกล้งงอนผมแบบนั้น ผมก็เลยอารมณ์ดี ผมยื่นแซนวิชไปทางเตอร์ ส่วนเตอร์ก็ไม่รอช้า รีบงับแซนวิชผมเข้าปากไปคำเบ่อเร่อ กลัวผมเปลี่ยนใจรึไงครับนั่น
“ทูน่าไม่อร่อยเลยพี่”
“กินของคนอื่นไปตั้งเยอะแล้วยังพูดมากอีก”
พวกเราสองคนนั่งทานมื้อกลางวันง่ายๆ กันอยู่ในงานตรงซุ้มขายอาหารนั่นแหละครับ พอทานกันเสร็จแล้ว เตอร์ก็ลากผมไปดูบูธต่างๆ อีกนิดหน่อย ก่อนที่จะชวนผมไปยืนรอดูพวกคอสเพลย์ขึ้นเวที เป็นอย่างที่เตอร์พูดไว้เลยครับ คนแน่นมากๆ เบียดกันจนผมแทบฝ่าเข้าไปไม่ไหวแน่ะ เตอร์เลยจับมือผมแล้วลากผมเดินตามแทน ข้อดีของคนตัวใหญ่สินะครับ กว่าเราจะไปถึงหน้าเวทีได้เตอร์ก็โดนสายตาไม่พอใจจากคนอื่นไปเยอะเหมือนกัน แต่หลานชายผมไม่สะทกสะท้านเลยซักนิด มีแต่ผมนี่แหละที่กลัวคนอื่นเขาจะเอาเรื่อง แต่ละคนท่าทางน่ากลัวทั้งนั้นเลยครับ บางคนก็มากันเป็นกลุ่มเลย โชคดีนะครับที่ไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้น
ผมที่ไม่ค่อยรู้จักการ์ตูนได้แต่ยืนอุดหูอยู่ข้างๆ เตอร์ที่ส่งเสียงเชียร์ร้องตะโกนเย้วๆ อยู่ข้างเวทีครับ อะไรจะขนาดนั้นหลานผม ท่าทางสนุกขนาดนั้น ต่อให้ผมเบื่อแค่ไหนก็ว่าไม่ลงหรอกครับ เพื่อให้ได้มางานเกมนี้ เตอร์ยอมเชื่อฟังผมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งช่วยผมทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ เวลาที่ผมตำหนิหรือตักเตือนอะไร เตอร์จะรีบจัดการเดี๋ยวนั้นไม่มีอิดออดเลยครับ ไม่อยากจะยกความดีให้สักเท่าไหร่ แต่นี่สินะพลังของงานเกมที่มีต่อเด็กติดเกมอย่างเตอร์ แต่เอาเถอะครับได้เห็นเตอร์มีความสุขท่าทางสนุกสนานขนาดนี้ แถมผมเองก็ได้มาเปิดหูเปิดตา บางทีพวกเกมออนไลน์กับกิจกรรมทำนองนี้มันก็อาจจะไม่ได้แย่เท่าไหร่ก็ได้
พอเราดูพวกคอสเพลย์เสร็จ เตอร์ก็ลากผมไปเล่นกิจกรรมต่อที่บูธเกมครับ เพราะมากันสองคน ผมก็เลยได้รับแจกใบเล่นเกมกับเขาด้วย พวกเรานั่งเล่นบิงโกกัน ในขณะที่พิธีกรบนเวทีประกาศเลขตัวที่หก ผมกำลังจะกาตัวเลขตัวที่สามในกระดาษของผม เตอร์ก็ยกมือขึ้นอย่างสะใจ เตอร์ได้รางวัลที่หนึ่งของเกมไปแล้ว ผมเห็นเตอร์ยิ้มหน้าบานวิ่งขึ้นไปรับรางวัลอย่างดีใจ ท่ามกลางเสียงนินทาด้วยความอิจฉาของคนอื่นๆ มีแต่คนแปลกๆ ทั้งนั้น ขนาดคนที่นั่งข้างๆ ผมกับเตอร์ยังมาสะกิดคุยกับผมเลยว่าเตอร์โชคดีมากแล้วก็ถามว่าพวกเราชื่ออะไรในเกม เล่นเอาผมไม่กล้าสบสายตากับใคร
แต่แล้วผมก็ต้องเขินมากกว่าเดิมเมื่อผมกาได้บิงโกด้วยเช่นกัน เตอร์ดีใจใหญ่เร่งให้ผมขึ้นไปบนเวทีรับรางวัล แต่รอบนั้นได้กันหลายคนครับ ส่วนรางวัลที่สามมีอยู่สามอัน เราก็เลยต้องเป่ายิ้งฉุบกัน เตอร์ส่งเสียงเชียร์ผมดังลั่น ตะโกนบอกให้ผมชนะให้ได้เพราะอยากได้ของรางวัลในรอบนั้น จนพิธีกรแซวว่าพวกเราโชคดีทั้งคู่ พิธีกรถามผมว่าอยากได้อะไร ผมก็ไม่รู้จะตอบยังไงเพราะผมไม่ได้เล่นเกม เลยได้แต่บอกไปว่าอยากได้ตัวที่เตอร์อยากได้ ผมถูกล้อว่าเป็นพี่ชายตัวอย่างด้วย ผมอยากจะมุดดินหนีจังเลยครับ ไม่ชอบเป็นเป้าสายตาแบบนี้เลย
ลงท้ายผมก็ชนะได้ของที่เตอร์อยากได้จนได้ละนะ เตอร์เลยได้กำไรสุดๆ ไปเลยครับ ได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านเพียบ ยิ่งตอนที่ผมกับเตอร์ไปลงชื่อหลังเวทีแล้วมีคนมาถามเตอร์ว่าขายรางวัลนั้นมั้ย ผมได้ยินราคาที่เขาเสนอเตอร์แล้วจะเป็นลม! ของแบบนั้นมันขายได้หลายพันเลยเหรอครับ? แต่เตอร์ไม่ยอมขายครับ บอกว่าจะเก็บไว้เล่นเอง
พอเสร็จกิจกรรมนี้ เตอร์ก็บอกว่าจะไปรวมตัวกับเพื่อนเพราะเสร็จธุระแล้ว เลยขอตัวไปโทรถามเพื่อนๆ ว่าอยู่ที่ไหน ผมก็ได้แต่เดินตามเตอร์ไปเรื่อยๆ แหละครับ เตอร์พาผมเดินออกมาด้านนอกแถวที่มีพวกคอสเพลย์ชุมนุมกันอยู่เยอะๆ หันซ้ายหันขวาอยู่พักหนึ่งเพราะหากันไม่เจอ พอโทรหากันอีกรอบซักพักก็มีคนเดินมาทางเราครับ
“ใช่ท่านนอร์ทบอยป่ะขอรับ?”
“ใช่ครับ”
คนที่มาทักเตอร์ดูโตกว่าเตอร์เยอะเลยครับ น่าจะอายุพอๆ กับผมด้วยซ้ำ ว่าแต่ นั่นมันภาษาอะไรกันละครับนั่น?
“แล้วท่าน?”
“กระผมริวเซย์สตาร์ขอรับ”
“อ้าว ดีครับท่านริวรั่ว ฮ่าๆ”
ผมไม่เข้าใจครับ! คงเพราะเตอร์เห็นสีหน้าแปลกๆ ของผม เตอร์ก็เลยหันมาแนะนำผมด้วย
“เออ นี่พี่ชายผมครับ”
“โอ้ สวัสดีขอรับท่านพี่”
เตอร์หันมาแนะนำผมให้เพื่อนเขารู้จัก แต่... ผมควรจะตอบกลับไปว่าอะไรดีครับ เพื่อนเตอร์คนนี้ประหลาดเกินไปแล้ว! ลงท้ายผมก็เลยได้แต่เดินตามเตอร์กับเพื่อนคนนั้นไปจนถึงที่ๆ พวกเขานั่งกัน พอเตอร์เดินไปถึง คนในกลุ่มก็ลุกขึ้นแล้วส่งเสียงประหลาดใหญ่เลยครับ ผมตกใจแทบแย่แหนะ
“โอ้ส! ตบมือต้อนรับละอ่อนเหนือของพวกเราหน่อยคร้าบ ท่านผู้นี้ของแรร์สุดๆ อ่ะ”
แล้วคนที่นั่งอยู่กลุ่มนั้นก็ตบมือกันจริงๆ ครับ แต่ละคนแซวเตอร์อย่างกับรู้จักกันมานาน ทั้งๆ ที่ทุกคนยังต้องแนะนำตัวด้วยซ้ำว่าใครเป็นใครบ้าง แต่บรยากาศกลับดูเป็นกันเองสุดๆ ผมแอบเหวออยู่หน่อยๆ นะครับ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้ แต่แล้วก็มีเสียงเรียกชื่อผมดังขึ้น
“อ้าว นั่นต้นมนุษย์น้ำแข็งภาคฟิสิกส์ไม่ใช่เหรอ?”
นั่นมันฉายาอะไรกันละครับ? แต่ข้อมูลถูกต้องแบบนั้นก็ทำให้ผมหันไปตามเสียงเรียก
“พี่เปา?”
“พี่ต้นรู้จักด็อกเตอร์บาคุด้วยเหรอ?”
“อะไรนะ? ด็อกเตอร์บาคุ?”
“เอ่อ นั่นชื่อล็อกอินในบอร์ดของกระผมเอง”
ผมมองผู้ชายใส่ชุดแปลกๆ แต่คุ้นหน้าคนที่อยู่ตรงหน้าแล้วก็งง นี่มันอะไรกันครับ? เตอร์รู้จักกับพี่เปารุ่นพี่ภาคเคมีที่มหาลัยของผมด้วย ถึงผมกับพี่เปาจะไม่สนิทกันเท่าไหร่แต่ก็คุ้นเคยกันพอสมควรครับ เพราะผมอยู่กลุ่มเดียวกับพี่เขาตอนรับน้องคณะวิทย์ พี่เขาเป็นคนที่มีเอกลักษณ์แปลกๆ บางอย่าง แกเลยจำง่าย ผมไม่มีทางลืมอยู่แล้ว แต่ผมก็ไม่คิดนะครับว่าพี่แกจะจำผมได้ รุ่นน้องมีตั้งเยอะแล้วผมก็ไม่ใช่เด็กในภาคแกด้วย
หลังจากที่คนอื่นรู้ว่าผมกับพี่เปาอยู่มหาลัยเดียวกัน ทุกคนก็เผื่อแผ่บรรยากาศเป็นกันเองมาถึงด้วย ผมนั่งฟังพวกเขาคุยกันรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง นั่งมองอะไรไปเรื่อยๆ บ้าง ไม่รู้จะทำอะไรเพราะเตอร์มัวแต่ไปวิ่งถ่ายรูปอยู่ ผมก็เลยเลือกนั่งอยู่ใกล้ๆ กลุ่มของพวกเขาแถวๆ นั้นรอ เพราะบางคนต้องรอขึ้นเวทีตอนเย็นอีกรอบ พอเตอร์ถ่ายรูปเสร็จก็กลับมานั่งรวมกลุ่มกับเพื่อนแล้วก็เฮฮากันต่อ ตอนที่พวกเขาคุยกันมีพยักพเยิดมาทางผมเล็กน้อย จากนั้นผมก็ถูกมองแปลกๆ ผมมองเตอร์ที่กำลังคุยกับคนอื่นอย่างออกรส แต่ดูท่าทางเตอร์เขินๆ ครับ มีสาวน้อยในกลุ่มสองสามคน พวกเธอแต่งคอสเพลย์ด้วย ผมเห็นเตอร์คุยๆ แล้วก็แอบหน้าแดง พูดมากน้อยกว่าปกติ ชักยังไงๆ ซะแล้วสิ
ผมนั่งรอเตอร์อยู่ใกล้ๆ เขากับเพื่อน ดูอะไรไปเพลินๆ แต่แล้วผมก็ถูกเพื่อนของเตอร์คนนึงสะกิด
“น้องๆ สนใจคอสมั้ย?”
“เอ่อ... ครับ?”
“พอดีมีน้องคนนึงเขากลับไปแล้ว เลยมีชุดเหลือชุดนึง น้องคนนั้นเขาตัวเท่าน้องพอดีเลย ลองแต่งดูมั้ย? น้องเอวเท่าไหร่อ่ะ”
ผู้ชายคนที่ทักผมนี่ดูยังไงก็ไม่ใช่วัยรุ่นครับ อายุเกินยี่สิบห้าแน่ๆ จู่ๆ เขาก็มาถามอะไรผมแปลกๆ เตอร์ที่ฟังอยู่ก็เลยแทรกขึ้นมาคุยกับพี่เขาซะเอง แล้วคุยกันอีท่าไหนไม่รู้เตอร์ก็หันมาบอกผมว่าให้ไปเปลี่ยนชุดซะงั้น
“ไม่ดีมั้งเตอร์”
“ไม่เป็นไรหรอกพี่ต้น ก็แค่กางเกงกับเสื้อคลุม น่า ลองดูหนุกๆ พี่ต้นต้องใส่แล้วเท่มากแน่ๆ เลย”
“พี่ไม่ถนัดเรื่องพวกนี้”
“ได้โปรดเถอะ ถือว่ากระผมขอร้อง อยากเห็นท่านต้นคอสมากเลยขอรับ”
อ้าว ไหงพี่เปาร่วมวงด้วยแบบนั้นล่ะ? แล้วทำไมต้องพูดภาษาประหลาดๆ แบบนั้นด้วย?
“ไม่ดีกว่าครับ ผมใส่ไปก็ไม่เท่หรอกครับ”
“เท่สิคะพี่ พี่เคะจะตาย พี่หน้าใสอยู่แล้วด้วย หนูมีเครื่องสำอางค์ เดี๋ยวหนูแต่งหน้าให้อีกนิดรับรองเกิดค่ะพี่!”
“นะพี่นะ เนี่ยทีมหนูจะได้คนครบๆ พี่ช่วยพวกหนูหน่อยนะคะ”
สาวน้อยสองคนนั้นหันมาร่วมวงกดดันผมซะแล้ว แถมคนอื่นๆ ยังช่วยกันเชียร์อีก ทำไมจู่ๆ ทุกคนถึงจับมือกันมายุส่งผมแบบนี้ล่ะ?
และแล้ว ก็เลยกลายเป็นว่า ผมถูกเตอร์กับพี่เปาลากไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำครับ แบบเสื้อน่ะไม่เท่าไหร่ แต่... กางเกงมันเป็นสีขาวเนี่ยสิครับ แล้วก็ค่อนข้างพอดีตัวด้วย รู้สึกมันคับๆ ยังไงก็ไม่รู้ครับ แถมพอออกมาแล้วยังถูกจับใส่สายรัดอะไรแปลกๆ อีกก็ไม่รู้ตรงต้นขา แต่ดีที่ว่าผมใส่รองเท้าคนละเบอร์ เลยไม่ต้องใส่บูทคู่นั่น แถมเสื้อแจ็กเก็ตนี่ก็สั้นเลยเอวด้วย ไม่ปิดด้านหลังผมเลย ดีนะครับที่ปกติผมไม่ได้ใส่ชั้นในสีเข้มอยู่แล้ว ไม่งั้นคงน่าเกลียดแน่ๆ ให้ตายเถอะ ผมไม่เคยใส่ชุดประหลาดๆ แบบนี้มาก่อนเลย รู้สึกแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ครับ ไม่มั่นใจเลย!
“โห ขาสวยมากเลยพี่ต้น กะแล้วว่าพี่ต้นต้องใส่ชุดนี้ขึ้น”
“หมายความว่าไง?”
“เปล๊า ไม่มีไรพี่ ไปเหอะๆ เพื่อนผมรออยู่”
แล้วผมก็ถูกลากออกจากห้องน้ำ พอเห็นผม คนแถวนั้นฮือฮากันใหญ่ ผมชักกลัวแล้วสิครับ นี่ผมคิดถูกหรือคิดผิดเนี่ย? แต่ละคนมองผมด้วยสายตาแปลกๆ ทั้งนั้นเลย เขินนะครับ
ผมถูกสาวน้อยสองคนนั้นจับแต่งหน้า อุตส่าหนีไม่ไปช็อปปิ้งกับพี่ษาเพราะไม่อยากเป็นตุ๊กตาถูกจับแต่งตัว แล้วผมก็ต้องมาโดนเพื่อนของเตอร์จับแต่งหน้า เกิดมาก็พึ่งจะโดนเขียนอายไลน์เนอร์นี่แหละครับ ถ้าเมษรู้ผมต้องโดนล้อแน่ๆ แถมน้องคนนึงยังเอาแว็กซ์มาใส่หัวของผมอีก รู้สึกเหมือนหัวตัวเองถูกขยำจนมึนเลยครับ อยากส่องกระจกจังเลยไม่รู้ว่าผมจะกลายเป็นตัวประหลาดแค่ไหนแล้ว!
พอทุกคนหยุดมือลงแล้ว ผมก็ได้โอกาสส่องกระจก ไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่าคนในกระจกคือผม! น้องๆ เขากรี๊ดกร๊าดดีใจกันใหญ่ ลากผมไปถ่ายรูปเยอะแยะเชียว ผมเองก็ทำตัวไม่ถูก เขินเป็นบ้าเลยครับ ผมถูกน้องๆ กับบรรดาตากล้องสั่งให้ทำท่าประหลาดๆ ตั้งหลายท่า ถูกให้ไปถ่ายรูปคู่กับคนอื่นๆ แบบ... เอ่อ... เอาเป็นว่าถูกจับให้อยู่ใกล้ๆ กันจนผมอึดอัดก็แล้วกันครับ แต่พอผมเรียกเตอร์ว่าให้พอเถอะ ผมอายเขา เตอร์กลับไม่ยอมแถมยังรวมกลุ่มกับเพื่อนยุผมให้แอ๊คท่าต่อไป สรุปผมกลายเป็นของเล่นให้คนอื่นไปแล้ว? แม้แต่พี่เปายังแกล้งผมทั้งถ่ายรูปทั้งแซวสนุกสนานเป็นการใหญ่เลยครับ มีเอาความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมาแกล้งบังคับผมด้วย! กว่าผมจะหลุดจากนรกตรงนั้นมาได้ แล้วได้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับเป็นชุดของตัวเอง แทบตาย! ยังดีที่น้องเขาขอสละสิทธิ์รอบบ่าย ไม่งั้นถ้าผมต้องขึ้นเวทีไปยืนแอ๊คท่าโชว์ตัวแบบนั้นจริงๆ ผมต้องบ้าตายแน่ๆ ครับ!
ส่วนรางวัลปลอบใจของผมก็คืออาหารญี่ปุ่นมื้อเย็นสุดอร่อย ซึ่งเหลือเชื่อว่างานนี้เตอร์เป็นคนจ่ายให้ผม อร่อยสมราคาคุยจริงๆ ครับ งานนี้ผมก็เลยได้เพื่อนแปลกๆ เพิ่มขึ้นเยอะเลย เพราะพี่เปาแท้ๆ ดูท่าพี่แกจะติดใจผมมาก เพราะได้ข่าวว่าแกกับเตอร์สนิทกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วในกลุ่ม ยิ่งพอรู้ว่าเตอร์เป็นน้องผม แกก็เลยตี้ซี้ผมใหญ่ พลางชวนให้คนอื่นๆ มาคุยกับผมมากขึ้นด้วย ผมก็พึ่งรู้นะครับ ว่าในกลุ่มมีเด็กมหาลัยเดียวกับผมหลายคนเหมือนกัน แถมยังอยู่ชมรมเกมกระดานกันด้วย พี่เปาชวนผมเข้าชมรมด้วยแหละครับ แต่ผมก็ยิ้มๆ ตามสไตล์แล้วก็บอกว่าขอคิดดูก่อน
พวกเขาคุยกันสนุกมากๆ แซวด้วยมุขแปลกๆ ที่ผมไม่รู้จัก แต่ว่าบรรยากาศเฮฮาแบบนี้ก็แปลกไปอีกแบบนะครับ แม้ว่าจะเสียงดังไปหน่อยก็เหอะ ดีที่พวกเราจ้องห้องพิเศษไว้ เลยไม่ต้องทนกับสายตาไม่พอใจของแขกโต๊ะอีกๆ ผมไม่เคยไปทานข้าวกับเพื่อนๆ แล้วเฮฮาขนาดนี้มาก่อนเลย พี่เปานี่คุยสนุกจริงๆ พอจะแยกย้ายกันผมก็เลยแลกเบอร์ติดต่อกับพี่เปาไว้ครับ จะได้เอาไว้แอบสอดส่องเตอร์ด้วย ดูท่าพี่แกรู้อะไรดีๆ เกี่ยวกับหลานผมคนนี้เยอะเหมือนกัน
ส่วนเตอร์หลานชายผมน่ะเหรอครับ? ทานเข้าไปขนาดนั้นจนจะเดินแทบไม่ไหวแล้ว สมน้ำหน้า! แถมเจ้าตัวยังมีหน้ามาบอกว่าเพราะผมกินไม่คุ้มค่าหัวอีกนะครับ ตัวเองถึงต้องกินแทนผม แต่ผมว่าดีไม่ดีร้านเขาจะขาดทุนน่ะสิ เพื่อนๆ เตอร์แต่ละคนทานจุกันทั้งนั้นเลย ขากลับผมขับรถกลับสบายๆ เพราะมีคนช่วยบอกเส้นทางมาให้เรียบร้อย ผมก็ว่าแล้วว่าทำไมผมคุ้นๆ เสียง ก็เสียงพี่เปานั่นแหละครับ พี่แกใจดีช่วยอธิบายทางให้ผม เพราะงั้นผมก็เลยขับรถกลับถึงคอนโดได้อย่างสวัสดิ่ภาพ ติดก็ตรงเตอร์นี่แหละครับ หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ให้ตายสิ ขี้เกียจจริงๆ กินอิ่มแล้วก็นอน เหมือนใครนะ!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++