
Drama Queen & Dump King
The story after that. - ตอนพิเศษ 6
ต้นน้ำเรียนรู้เร็วมาก พอแม็กซ์อธิบายหลักการณ์คร่าวๆ ให้ฟังเจ้าตัวก็เข้าใจแล้วช่วยเขาทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว เพราะมีผู้ช่วยคนเก่ง งานจึงค่อยๆ ลุล่วงไปได้โดยง่าย ต้นน้ำช่วยสรุปข้อมูลยากๆ เขียนออกมาได้อย่างสละสลวย แถมยังช่วยแม็กซ์พิมพ์เนื้อหารายงานได้อย่างรวดเร็ว สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว คนทั้งสองทำงานกันพลางพูดคุยเรื่อยเปื่อย เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วพอๆ กับปริมาณงานที่ลดน้อยลงเช่นกัน และเมื่อกระดาษแผ่นสุดท้ายถูกปริ้นออกมาจากเครื่องพิมพ์ คนทั้งคู่ก็ร้องไชโยด้วยความดีใจ
“โหย ขอบคุณต้นมากๆ เลย ไม่งั้นป่านนี้คงยังไม่เสร็จ เผลอๆ ลากยาวไปถึงพรุ่งนี้ ทีนี้ก็เหลือแต่เอาไปเย็บเล็มส่งละ รอดแล้วโว้ย!”
ต้นน้ำยิ้มอย่างสดใสแล้วเอ่ยกับเพื่อนของตนว่า
“งั้นอย่าลืมสัญญานะ ยากินิคุ”
“คร้าบๆ ไม่ลืมหรอก เชี่ย พูดแล้วหิวเลยอ่ะ”
“หิวไรตอนนี้”
“ก็คนทำงาน ใช้สมอง แถมตอนเย็นก็กินไม่ค่อยลง ปกติแม็กซ์ซัดสองจานนะนั่น”
แม็กซ์แก้ตัวก่อนจะเอ่ยชวนต้นน้ำ
“ไปหาไรกินกันป่ะ”
“ตีหนึ่งเนี่ยนะ?”
“อือ แถวหน้าตลาดน่าจะมีก๋วยเตี๋ยวขายอยู่”
“ขี้เกียจอ่ะ เราง่วงแล้ว”
ต้นน้ำปฏิเสธพลางทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดห้าฟุต เขาไม่รู้ตัวเลยว่าท่าทางของตนนั้นทำหัวใจแม็กซ์กระตุกมากแค่ไหน แม็กซ์ต้องพยายามตั้งสติ ห้ามตัวเองไม่ให้กระโจนลงไปงาบคนที่กำลังนอนแผ่อยู่ตรงหน้า!
“ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยดิ อย่าใจร้ายเลย ลุกๆ แม็กซ์หิว”
“เรา... เราจะไปด้วยได้ไง เราไม่ได้ใส่...”
สีหน้าหนักใจปนเขินอายของต้นน้ำที่กลิ้งอยู่บนเตียงทำให้แม็กซ์แอบยิ้ม
“เอายีนส์แม็กซ์ใส่ทับไปป่ะ?”
“เอางั้นเหรอ?”
“เออ เร็วดิ หิว รีบไปกินจะได้กลับมานอนไง”
“ทุกทีอ่ะ แม็กซ์ชอบบังคับ”
ถึงต้นน้ำจะบ่นออกมาแบบนั้นแต่ก็ยื่นมือออกมารับยีนส์ที่แม็กซ์ส่งให้ไปใส่ กางเกงยีนส์ของแม็กซ์หลวมจนต้นน้ำต้องขอยืมเข็มขัดไปคาด
คนทั้งสองขี่ดูคาติออกไปหาของกินยามดึก นาทีนี้คงไม่มีใครมีความสุขไปกว่าแม็กซ์อีกแล้ว วงแขนที่โอบอยู่รอบเอวเขาด้วยความกังวลนั้นช่างน่าปกป้อง จะเพราะความมืด สายลมเย็นๆ ที่ปะทะเข้ามา หรือเพราะอะไรก็ช่าง แม็กซ์ขอบคุณทุกๆ อย่างที่ช่วยดลใจให้ต้นน้ำกอดเขาจนแน่น งานก็เสร็จไม่ต้องเครียดแถมยังมีคนสำคัญซ้อนท้ายออกมาดินเนอร์รับอรุณ และอีกเดี๋ยวเขาอาจจะได้นอนกอดต้นน้ำอีกด้วย แค่คิดแม็กซ์ก็มีความสุขจนตัวลอย โชคดีที่ใบหน้าของเขามีหมวกกันน็อคปิดบังเอาไว้ ต้นน้ำจึงไม่เห็นสีหน้าของเขาว่ามันแอบดีใจมากแค่ไหน
ขับลัดเลาะตามตรอกซอกซอยได้ไม่นานก็มาถึงจุดหมาย แม็กซ์จอดรถใกล้ๆ กับร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าประจำแล้วบอกให้ต้นน้ำไปนั่งรอที่โต๊ะ
“เอาเหมือนเดิมเฮีย”
“อ้าว ไปไหนมาถึงได้แวะมาได้ พักนี้ไม่มาอุดหนุนกันเลยนะ”
เจ้าของร้านร้องทักก่อนจะถามต่อเมื่อเห็นต้นน้ำที่มาด้วยกันกับแม็กซ์
“วันนี้พาใครมาด้วยล่ะ เพิ่งกลับจากเที่ยวกันมาเหรอ”
“ไม่ได้ไปไหนเฮีย! หิวเฉยๆ เอาเกี๊ยวน้ำให้เพื่อนผมด้วยชามนึง”
“เฮ้ย! เราไม่เอานะแม็กซ์”
“เออน่า กินเป็นเพื่อนแม็กซ์หน่อย”
ต้นน้ำแสดงสีหน้าขัดใจนิดหน่อยแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไรต่อ
“แฟนน่ารักดีนะ ฮ่าๆ มีแฟนแล้วนี่เองถึงได้ไม่ออกไปเที่ยว เลยไม่มาแวะร้านเฮีย”
“แฟนที่ไหนเฮีย เพื่อนกัน! รีบๆ ทำเตี๋ยวให้ผมเร็วๆ เลย โคตรหิวอ่ะ”
เจ้าของร้านยืนลวกเส้นไปแซวแม็กซ์ไปอย่างสนุกสนาน คนทั้งคู่แสดงออกถึงความสนิทสนมในระดับหนึ่ง และเมื่อแม็กซ์ได้ของที่สั่ง เขาก็เดินถือชามก๋วยเตี๋ยวกับชามเกี๊ยวมาเสริฟให้ต้นน้ำที่นั่งรออยู่ตรงโต๊ะ ต้นน้ำได้โอกาสเลยถามขึ้น
“นายรู้จักร้านนี้ได้ไงอ่ะ”
ต้นน้ำมองไปรอบๆ ก่อนจะหันมามองเพื่อนของตน อาจจะเพราะร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับร้านสะดวกซื้อ แถมข้างๆ กันนั้นก็มีเพิงคาราโอเกะเล็กๆ ที่ยังคงเปิดทำการอยู่ กลุ่มคนเมาตะเบ็งเสียงร้องเพลงดังลั่น เรียกว่าดูแล้วบรรยากาศไม่น่านั่งที่สุดสำหรับเขา
“ก็มีอยู่วันกลับดึกแล้วหิว ผ่านมาร้านมันเปิดอยู่เลยลงมากิน อร่อยดีไม่ไกลบ้านด้วยเลยมาบ่อยๆ บางทีมันก็อยากขับรถตอนกลางคืนเล่นอ่ะ ไม กลัวเหรอ? ไม่มีไรหรอก เตี๋ยวเฮียเขาอร่อยนะต้น ลองชิมดิ”
แม็กซ์ชี้ชวนเพื่อนให้ลองชิมเกี๊ยวน้ำร้อนๆ ที่ยกมาเสริฟ ต้นน้ำจึงรับตะเกียบกับช้อนมาแล้วตักเกี๊ยวเข้าปาก
“อร่อยใช่มั้ยล่ะ?”
แม็กซ์ยิ้มให้ต้นน้ำที่ส่งสายตาเขวี้ยงค้อนมาให้วงเบ้อเร้อ
“นายนี่ ทำตัวติดดินจัง ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว ชอบไปแต่ร้านแปลกๆ เมื่อก่อนก็รู้นะว่าบ้านนายมีตังค์แต่ไม่คิดว่าจะรวยขนาดนี้ มิน่าเที่ยวเก่งไม่เห็นคุณค่าของเงินเลย”
ต้นน้ำทั้งชมทั้งด่าเมื่อนึกถึงตอนที่แม็กซ์อยากดื่มเบียร์แต่ร้านสะดวกซื้อ ไม่ขายเครื่องดื่มมึนเมาให้กับเด็กอายุต่ำกว่ายี่สิบ ตอนนั้นแม็กซ์อยากหนักจนพาเขาตระเวนลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยต่างๆ แล้วลงท้ายก็ไปหาซื้อมาจนได้จากร้านโชว์ห่วยที่ไม่สนใจกฏหมาย แม็กซ์เข้าถึงวิถีชีวิตของคนได้ทุกระดับจนเขาอิจฉา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มคุณหนูมีเงินหรือกลุ่มช่างกล เด็กพานิชย์ แม็กซ์เข้าหาคนได้ทุกกลุ่ม มีเพื่อนทุกแบบ แตกต่างจากคนอย่างเขาที่ไม่รู้จะปฏิบัติตัวอย่างไรกับคนอื่น
“เอ้าๆ จะชมหรือด่า แม็กซ์ติดดินกินง่ายอยู่ง่ายไม่ดีรึไง”
“ก็ดี แต่บางทีก็ขี้เกียจเกินไป ที่แท้เป็นคุณหนูมีคนใช้นี่เอง มิน่าไม่ยอมทำอะไรเองซักอย่าง”
“ผู้ชายที่ไหนเขาชอบกวาดบ้านถูบ้านแบบต้นกัน ละอีกอย่างแม็กซ์จ้างคนมาทำทุกอาทิตย์อยู่แล้ว ต้นแหละทนไม่ได้เอง”
“ก็นายมันซกมกนี่! แค่สองวันห้องก็รกแล้ว ละอีกอย่างเราไม่ได้ชอบทำซะหน่อย แต่มันจำเป็นต้องทำต่างหาก แม่เราทำงานกลับมาเหนื่อยๆ เราก็แค่ช่วยแบ่งเบาภาระแม่ นายแหละชอบหาเรื่องแกล้งให้เราทำให้”
“ใครๆ ใครหาเรื่องพูดให้มันดีๆ ตัวเองเรื่องมากเอง ต้นไม่ทำแม็กซ์ก็อยู่ได้”
“ซกมก!”
ต้นน้ำว่าให้เพื่อนรักอย่างแง่งอนพลางตักเกี๊ยวส่งเข้าปากเคี้ยวคำโตจนแก้มตุ่ย สายตาของเขาปะหลับปะเหลือกแลดูน่ารักจนแม็กซ์เผลอยิ้ม
“ละไม่ดีเหรอไง ต้นจะได้มีงานอดิเรกที่ชอบทำไง ฮ่าๆ มีต้นอยู่ด้วยไมแม็กซ์ต้องทำเอง ฮ่าๆ”
“บ้า! นิสัยเสียที่สุดเลย ไม่คุยด้วยแล้ว”
“เออ กินๆ”
แม็กซ์ยิ้มให้กับความเจ้าระเบียบของต้นน้ำ เพื่อนเขาคนนี้นิสัยประหลาด จะบอกว่าเป็นพวกเจ้าระเบียบก็ว่าได้ แต่บางครั้งต้นน้ำก็ย้ำคิดย้ำทำจนเกินไปอย่างกับคนเป็นโรครักความสะอาด แม็กซ์รู้ดีว่าในตัวต้นน้ำมีอะไรขัดกันหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทั้งบุคลิคภาพหรือนิสัย และเพราะเหตุนั้นต้นน้ำจึงค่อนข้างติดเขา เพราะเขาเหมือนกับเหรียญคนละด้าน มีอะไรบางอย่างที่เจ้าตัวถวิลหาและอิจฉาปะปนกัน ต้นน้ำขาดเขาไม่ได้แม็กซ์รู้ดี
เพราะสายตาที่มองตรงมาอย่างมีเลศนัยบวกรอยยิ้มลึกลับกอปรกับอาการส่ายหัวน้อยๆ ต้นน้ำเลยได้แต่อึดอัดขัดใจ เขาอ่านทางแม็กซ์ไม่ถูก แม็กซ์เหมือนคนโผงผาง หากแต่อ่านง่ายเฉพาะเวลาที่เจ้าตัวโมโหก็แค่นั้นเพราะความตรง แต่ในเวลาที่เจ้าตัวอารมณ์ดี ต้นน้ำไม่เคยเดาทางอีกฝ่ายได้เลย มันดูลึกลับอ่านยากไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไร บุคลิครวมไปถึงทัศนคติและการแสดงออกต่างๆ ของแม็กซ์ช่างเปี่ยมไปด้วยพลังของเจ้าป่า แม็กซ์มีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาได้แต่เฝ้ามองด้วยความอิจฉา จากความหมั่นไส้ก็กลายเป็นความหลงใหลไม่รู้ตัว ต้นน้ำพึงพอใจที่จะมีราชสีห์เชื่องๆ ตัวนี้คอยคุ้มภัยอยู่เคียงข้างกาย
คนทั้งสองนั่งทานมือดึกไปพลางเถียงกันไป แต่แล้วเสียงเหย้าแหย่ก็ต้องถูกขัดจังหวะด้วยเสียงคนเมา
“เฮ้ยไอ้น้อง มอไซค์เอ็งสวยดีนี่หว่า หน้าตาก็ดีไม่น่ามีแฟนเป็นตุ๊ดเลย”
กลุ่มชายวัยกลางคนที่กำลังเมาได้ที่เดินโซเซมากล่าววาจาหาเรื่องกันถึงโต๊ะ ต้นน้ำตกใจจนเผลอหันไปมองตาโต แม็กซ์เองก็ของขึ้น แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ผู้ชายกลุ่มนั้นก็เข้าถึงตัวต้นน้ำ หนึ่งในนั้นจับคางของต้นน้ำพลิกไปพลิกมาแถมยังดึงแว่นของเขาออก ส่งผลให้ต้นน้ำต้องข่มอารมณ์ตัวเองกำหมัดเสียแน่น
“โอโห หน้าตาน่ารักดีไม่เบานี่หว่า”
ต้นน้ำได้แต่บอกตัวเองให้ตั้งสติไว้และใจเย็นๆ พวกมันมากันสามคน ส่วนเขากับแม็กซ์มีกันแค่สอง ในมือพวกมันมีทั้งแก้วและขวดเบียร์ ถ้าเกิดอะไรขึ้น เขาจะเป็นคนที่อันตรายที่สุด ต้นน้ำจึงพยายามเบนสายตาหันไปมองแม็กซ์เพื่อขอความช่วยเหลือ
เช่นเดียวกันกับต้นน้ำ แม็กซ์เองก็รู้ดีถึงความเสี่ยงของสถานการณ์ เขาเข้าถึงตัวต้นน้ำได้ยากกว่าคนแปลกหน้าพวกนี้เนื่องจากอยู่คนละด้านของโต๊ะ เป็นเพราะเมื่อกี้เขามัวแต่คุยเล่นกับต้นน้ำจนจมอยู่ในโลกส่วนตัวเลยไม่ได้ สังเกตความผิดปกติ กว่าจะรู้ตัวคนพวกนั้นก็มาประชิดตัวต้นน้ำแล้ว งานนี้เขาไม่ควรทำอะไรเสี่ยงๆ เพราะต้นน้ำอาจจะเป็นคนที่ได้รับอันตรายมากที่สุด
“ปล่อยเพื่อนผมเหอะพี่ ดูดิมันกลัวจนตัวสั่นแล้ว พวกพี่จะเอาไรบอกผมดีกว่าครับ”
“พี่ไม่ได้จะเอาอะไรจากน้องว่ะ ก็แค่เห็นมอไซค์น้องสวยดี ยืมขี่ได้ป่ะ ฮ่าๆ”
“ไม่ได้หรอกพี่ ของพ่อ เกิดให้พวกพี่ยืมไปผมโดนพ่อด่าตายเลย ให้ผมเลี้ยงเบียร์พวกพี่แทนดีกว่ามั้ง”
แม็กซ์พยายามเจรจา ลูกค้าในร้านอีกสองโต๊ะต่างก็เริ่มขยับหนี ส่วนเฮียเจ้าของร้านออกมายืนข้างๆ แม็กซ์พลางไล่แขกขี้เมา
“ไปๆ อย่ามากวนลูกค้าร้านกู เฮ้ย! อิต้อย มึงมาดูลูกค้ามึงหน่อย มากวนแขกร้านกูเนี่ย”
“กวนไรกัน พวกผมเห็นน้องเขาน่ารักดีก็เลยจะมาชวนไปดื่มเฉยๆ”
“ฮ่าๆ”
คนเมากลุ่มนั้นนอกจากจะไม่ยอมถอยแล้วยังลูบแก้มต้นน้ำเบาๆ ส่งผลให้ต้นน้ำต้องเบ้ปากด้วยความรังเกียจ ต้นน้ำกัดริมฝีปากแน่นจนซีดขาว แม็กซ์เห็นแล้วก็ใจสั่น เขาห่วงต้นน้ำ!
“เพื่อนผมมันไม่ดื่มหรอก ถ้าพวกพี่อยากดื่มมาดื่มกับผมดีกว่า พวกพี่อยากดื่มไรผมเลี้ยงก็ได้ ถือว่าเราทำความรู้จักเพื่อนใหม่ นะพี่นะ ปล่อยเพื่อนผมเหอะ”
แม็กซ์พูดพลางล้วงธนบัติใบละพันออกมายื่นให้กลุ่มคนเมาพลางบุ้ยปากไปทางร้านสะดวกซื้อ
“พี่อยากกินอะไรพี่ไปซื้อเอาเลย เดี๋ยวผมจะไปดื่มด้วย แต่ขอผมพาเพื่อนกลับไปส่งบ้านก่อน ไม่งั้นไอ้หมอนี่โดนพ่อด่าแน่”
“ไรว้า ไม่มีน้องคนนี้แล้วก็ไม่หนุกดิ ถึงพี่ไม่รวยแต่ลีลาพี่เด็ดนะจ้ะ รับรองจะติดใจ น่ารักแบบน้องพี่โอเคเลยจ้ะ”
หนึ่งในนั้นพูดพลางพยายามจะกอดต้นน้ำ แต่อีกคนถลามาฉกเงินในมือแม็กซ์ไป
“ให้พวกพี่จริงอ่ะไอ้น้อง รวยเหรอ”
เมื่อเห็นเพื่อนพูดดังนั้น คนเมาอีกคนเลยกลัวอดของฟรีรีบมาแย่งเงินไปดู
“ไหนดูดิ ของปลอมเปล่า เฮ้ยของจริงด้วย ฮ่าๆ ไอ้เด็กนี่มันรวยจริงๆ ให้พี่จริงอ่ะ”
“ครับๆ ผมให้ พี่รีบไปกินเหล้าต่อเหอะพี่ เดี๋ยวจะตีสองแล้วร้านมันปิดอดใช้เงินนะครับ”
“ให้แล้วคืนไม่ได้นะน้อง ว่าแต่น้องไม่ไปนั่งกับพวกพี่จริงๆ อ่ะ”
“ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวผมต้องกลับแล้ว”
เรื่องทำท่าจะคลีคลายด้วยอำนาจเงินของแม็กซ์ แต่คนเมาที่กอดต้นน้ำอยู่กลับยังไม่ยอมแพ้
“ใช่ซี กูมันไม่รวยนี่หว่า ถึงได้ไม่มีใครสนใจกู มึงก็เห็นแก่เงินเหมือนมันใช่มั้ย”
สถานการณ์ทำท่าจะบานปลายเพราะคนเมาคนนี้เริ่มอาละวาด แต่ก็มีเสียงขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน
“อย่าไปยุ่งกับมันเลยค่า ตุ๊ดมันจะไปสู้ผู้หญิงได้ยังไง ไปค่ะ พี่ขาไปนั่งกะหนูดีกว่านะคะ”
พอดีกับที่พนักงานสาวจากร้านรีบเดินมาดึงแขกกลับไปใช้เงิน พอมีผู้หญิงมาแสดงความสนใจคนเมาคนนั้นก็เลิกสนใจต้นน้ำ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวของขึ้นยืนตวาดเจ้าของร้านคาราโอเกะให้ดูแลลูกค้าของ ตนให้ดีด้วยท่าทางเอาเรื่อง สาวๆ จากร้านคาราโอเกะเลยพากันมาลากตัวลูกค้าของตนกลับไป แขกกลุ่มนั้นเลยปล่อยตัวต้นน้ำให้เป็นอิสระ แต่คนเมาที่ฉวยเงินไปกลับส่งแก้วที่ถือมาด้วยให้แม็กซ์
“เอ้า น้องเลี้ยงพี่ งั้นแก้วนี้พี่เลี้ยงน้อง!”
“ครับๆ”
เพื่อตัดปัญหาแม็กซ์เลยรับเบียร์ครึ่งแก้วนั้นมากระดกลงคอรวดเดียวหมดก่อนจะส่งแก้วคืนให้
“มันต้องงี้ดิ เจ๋งเว้ย ฮ่าๆ เอาไอ้น้อง เพื่อนน้องดื่มแล้ว ดื่มเป็นเกียรติให้พวกพี่หน่อยสิจ้ะคนสวย”
คนเมาคนเดิมหัวเราะชอบใจพลางเทเบียร์ในขวดใส่แก้วจนเต็มแล้วยื่นให้ต้นน้ำ ต้นน้ำต้องขุดตบะทั้งหมดมาเตือนตนเองให้อดทนอดกลั้นไม่ตอกกลับคนพวกนี้ เรื่องกำลังจะจบแล้ว เขาจะทำเสียเรื่องไม่ได้
“อย่าดีกว่าครับ เพื่อนผมดื่มไม่เป็นจริงๆ คออ่อนมาก พ่อมันหวงด้วย นี่ผมกำลังจะพามันกลับบ้านเนี่ยพี่ เกิดพ่อมันเห็นเมาเดี๋ยวผมจะซวย”
“ไรว้า ไม่ยอมไปนั่งกับพวกพี่แล้วยังไม่รับน้ำใจอีก หยิ่งจัง”
“น่านะพี่ ถือว่าผมขอแล้วกันนะครับ คนนี้ผมหวง อุตส่าจีบอยู่ พวกพี่ทำแบบนี้มีหวังเขาเกลียดผมแน่เลย”
“ฮ่าๆ แล้วก็ไม่บอก มิน่าเอาแต่เงียบ เล่นตัวแบบนี้ปล้ำเลยไอ้น้อง”
คนเมาพวกนั้นพากันหัวเราะครืนก่อนจะแยกย้ายกันไปทิ้งไว้แต่เพียงเสียงก่นด่าของเจ้าของร้าน และรอยเลือดบนปากต้นน้ำ
“ต้น แม็กซ์ขอโทษ”
“ช่างเถอะ แม็กซ์ไม่ผิดหรอก”
ต้นน้ำเอ่ยเบาๆ ก่อนจะรับกระดาษทิชชู่ที่แม็กซ์หยิบจากบนโต๊ะส่งมาให้ เขาซับเลือดบนปากเบาๆ พลางสูดลมหายใจลึกๆ สองสามทีเพื่อสงบสติอารมณ์ของตัวเอง
“ผิดดิ ถ้าแม็กซ์ไม่พาต้นมาก็ไม่ต้องเจออะไรแบบนี้หรอก”
“ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าจะเจออะไรแบบนี้”
“เราขอโทษ ทีหลังจะไม่พามาร้านแบบนี้อีกแล้ว”
แม็กซ์ได้แต่โทษตัวเอง เขาลืมไปเสียสนิทใจว่าต้นน้ำนั้นดึงดูดคนประเภทไหน เขาได้แต่ก่นด่าตัวเองที่ไม่รู้จักจำ กี่ครั้งแล้วที่เขาต้องออกโรงปกป้องเพื่อนรักจากเหตุการณ์ทำนองนี้
เฮียเจ้าของร้านยืนบ่นต่อนิดหน่อยด้วยท่าทางหงุดหงิดก่อนจะหันมาคุยกับแม็กซ์
“เฮ้ย พาเพื่อนกลับไปก่อนเถอะ ไม่รู้ไอ้หมาบ้าพวกนั้นมันจะทำอะไรอีก มื้อนี้เฮียไม่คิดเงิน”
“จะดีเหรอเฮีย”
“เออ คนกันเอง เอ็งให้เงินไอ้พวกนั้นไปตั้งพันไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวเฮียไปเก็บกับอิต้อยเอง ดีนะมันไม่อาละวาดพังร้าน ยอมกลับไปง่ายๆ”
“งั้นขอบคุณเฮียมากครับ ผมลาล่ะ ไว้แล้ววันหลังผมมาอุดหนุนใหม่”
แม็กซ์ยกมือไหว้เจ้าของร้านก่อนจะรีบพาต้นน้ำกลับบ้าน เขาสัมผัสได้ว่าวงแขนที่เกาะเขาอยู่นั้นโอบกระชับแน่นกว่าขามาเสียอีก ต้นน้ำกลัว เขารู้ดี!
เมื่อถึงบ้าน ต้นน้ำเดินนำแม็กซ์ขึ้นไปยังห้องนอน เพื่อนของเขาเงียบไปตั้งแต่เกิดเรื่องที่ร้าน และเมื่อเข้าไปในห้องนอนแล้วต้นน้ำก็ขอตัว เพื่อนของเขาเดินเข้าห้องน้ำพร้อมกับหยิบผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าชุดใหม่จาก ตู้เข้าไปเปลี่ยน แม็กซ์ถอดเสื้อผ้าจนเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์แล้วล้มแผ่ลงบนเตียง เขาได้แต่ด่าตัวเองอยู่ในใจเงียบๆ ที่เผลอทำคะแนนติดลบในสายตาต้นน้ำ
ใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่ง ต้นน้ำก็ออกมาพร้อมกับกลิ่นหอมกรุ่นที่แม็กซ์คุ้นเคย หยดน้ำที่เกาะอยู่ตามเส้นผมทำให้แม็กซ์รู้ว่าต้นน้ำอาบน้ำใหม่อีกครั้ง
“อาบน้ำเหรอ?”
“อื้อ ออกไปนั่งรถตากลม เหนียวตัวน่ะ แม็กซ์ไม่อาบเหรอ”
“ขี้เกียจอ่ะ”
แม็กซ์กะเด้งตัวขึ้นมามองเพื่อนรักที่กำลังเช็ดศีรษะด้วยสายจริงจังก่อนจะเอ่ยปากถาม
“รังเกียจคนพวกนั้นเหรอต้น”
ต้นน้ำมองแม็กซ์อย่างเอือมระอาก่อนจะตอบ
“แล้วจะให้เราชอบเหรอ?”
“ละโกรธแม็กซ์รึเปล่า?”
“จะโกรธทำไม... แม็กซ์ไม่ใช่คนผิด”
ต้นน้ำหยุดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยต่อ
“เรารู้น่ะว่าแม็กซ์พยายามจัดการเรื่องดีที่สุดแล้ว เถียงกับคนเมาไม่มีประโยชน์หรอก เสี่ยงจะตาย แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นเรานี่แหละจะโดนหนักสุด ถึงจะเจ็บใจที่ต้องเสียเงินไปฟรีๆ ให้คนพวกนั้น แต่แลกกับความปลอดภัยมันก็คุ้มใช่มั้ยล่ะ”
พอได้ฟังที่เพื่อนพูด แม็กซ์ก็ยิ้มออก เพื่อนของเขาโตขึ้นแล้วจริงๆ ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้นน้ำคงไม่มีวันเข้าใจเหตุผลแบบนี้ เพื่อนของเขามีความอดทนเป็นเลิศ แต่ภายใต้หน้ากากอันสงบเสงี่ยมนั้น ต้นน้ำซุกซ่อนไว้ด้วยความแค้นเคืองที่พร้อมจะอาฆาตทุกๆ คนที่เคยทำร้ายตน รอวันระเบิดออกมาเพื่อเอาคืน ไม่เคยมีคำว่าเลิกแล้วต่อกันอยู่ในหัวของต้นน้ำจนกว่าจะแก้ไขข้อผิดพลาดได้ ทั้งหมด ต่างกับเขาที่พร้อมจะจบๆ กันไปได้ง่ายๆ ถ้ามันดีต่อทุกฝ่าย
“อื้ม ไม่อยากมีเรื่องกันด้วย เกิดอะไรขึ้นร้านเฮียจะพังเอา สงสารคนทำมาหากิน ลำพังแม็กซ์อ่ะไม่เป็นไรหรอก แต่ต้นดิ แม็กซ์กลัวมันทำไรต้นมากกว่า”
“แม็กซ์เปลี่ยนไปนะ นิ่งขึ้นตั้งเยอะ”
ต้นน้ำยิ้มออกมาได้ในที่สุด เขาส่งยิ้มให้เพื่อนก่อนจะเดินไปตากผ้าเช็ดตัวแล้วย้อนกลับมาที่เตียง ต้นน้ำมองแม็กซ์ที่นั่งกินพื้นที่ไปกว่าครึ่งแล้วเอ่ยถาม
“ละจะให้เรานอนตรงไหนเนี่ย?”
“ก็นอนกับแม็กซ์บนนี้เนี่ยแหละ เตียงตั้งกว้าง ไม่มีที่นอนปิคนิกหรอก”
“กว้างที่ไหน”
“ไม ทำอย่างกับไม่เคย มารำลึกความหลังกันซะดีๆ มาๆ มานอนกับแม็กซ์นี่”
“ทุเรศละ น้ำก็ไม่อาบ ฟันก็ไม่แปรง ซกมกอ่ะ อี๋”
“ฮ่าๆ”
“เหยิบไปดิ จะให้เรานอนด้วยละก็กางขาซะกินที่”
“ต้นแม่ง... เตียงแม็กซ์นะเว้ย!”
“เราไม่ให้นายเสียสละลงไปนอนบนพื้นก็ดีเท่าไหร่แล้ว”
ต้นน้ำพูดพลางผลักแม็กซ์ให้เขยิบไปอีกฝั่งของเตียงเบาๆ
“อยู่บ้านทำงี้กับแฟนมั่งป่ะเนี่ย? โหดว่ะ”
“ไม่มีอ่ะ เตียงที่ห้องเราออกจะกว้าง นอนสบายกว่านี้เยอะ”
“ใช่ดิ เตียงแม็กซ์มันไม่สบายเหมือนเตียงแฟนต้นหนิ อยู่กับแฟนนอนกอดกันทุกคืนอ่ะดิ”
แม็กซ์พูดพลางเอนตัวตะแคงก่อนจะชันศอกมองดูเพื่อนรักก้าวขึ้นเตียงมาพร้อมกับตลบผ้านวมขึ้นมาห่ม
“ยุ่งแล้ว เรื่องส่วนตัวเรา”
“คร้าบๆ ไม่ถามแล้ว นอนเหอะ”
“ก็นอนดิ นายแหละ เลิกชวนเราคุยได้แล้ว”
ต้นน้ำพูดพลางพลิกตัวตะแคงหนีไปอีกข้างทิ้งให้แม็กซ์เซ็งอยู่คนเดียว เพื่อนของเขานอนหลับหน้าตาเฉยไม่คิดอะไรกับเขาเลยหรือไง? อย่างน้อยๆ ถ้าไม่ได้ให้ท่าเขาก็ควรจะกลัวเขาสักนิดไม่ใช่หรือ? เขาเคยปล้ำต้นน้ำมาแล้วด้วยซ้ำ! แม็กซ์หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขาไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือไม่ที่ต้นน้ำเชื่อใจเขามากขนาดนี้ สุดท้ายก็เลยได้แต่รับคำส่งๆ พลางทิ้งตัวลงหนุนหมอนอยู่เคียงข้างกัน ปล่อยให้ในห้องนั้นเหลือเพียงแต่เสียงเครื่องปรับอากาศคำราม
“เออๆ”