
Drama Queen & Dump King
The story after that. - ต้นน้ำ
ผมเดินออกมาจากห้องของพวกผู้หญิงด้วยความรู้สึกแปลกๆ ไปป์กับป่านสองคนนั้นดูแปลกไปมากๆ ครับ แต่ช่างเขาเถอะครับ เพราะผมไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านซักเท่าไหร่
“ต้น ถ่านมันดับอ่ะ”
“แล้วทำไงให้ถ่านดับ”
“ก็มิวนิคอ่ะสิ เราบอกมันแล้วให้สะเด็ดน้ำปูก่อน มันไม่ฟังเอาขึ้นเลย น้ำเลยหยดใส่จนถ่านชื้นดับหมด”
เมย์ฟ้องผมเป็นฉากๆ เลยครับ ผมไม่อยู่แค่แปปเดียวเองนะ เป็นเรื่องซะละ ผมจิกสายตาเย็นๆ ไปทางมิวนิคทันที
“ก็กูหิวอ่ะ บอกให้ปิ้งเยอะๆ คนแม่งตั้งเยอะ ปิ้งได้ทีละสองตัว!”
แหกตาดูเตาบาร์บีคิวที่ยืมมาได้หน่อยเถอะมิวนิค! ใจจริงผมอยากจะตอบกลับไปแบบนี้นะครับ ผมยังไม่ได้กินเลยซักตัว แถมยังต้องมายืนปิ้งให้พวกมันเนี่ย
“ก็ทานอย่างอื่นไปก่อนสิครับ อย่ายัดทะนานเยอะนัก เหลือให้เพื่อนคนอื่นเขาบ้าง”
“ต้นแม่งปากเสียว่ะ”
“จะกินไม่กินครับ?”
ผมถือไม้ที่คีบถ่านหันไปหามิวนิคทันที
“กินคร๊าบบ”
“ก็แค่นั้น”
ยังไงซะไอ้พวกนี้ก็ต้องพึ่งผมครับ ทั้งๆ ที่มีคนสูบบุหรี่ เอ่อ... ก็รุ่นพี่ กับเพื่อนบางคนนั่นแหละครับ แต่กลับไม่มีใครจุดถ่านเป็น อย่างดีก็แค่เผากระดาษให้ติดไฟ ติดถ่านแดงๆ ได้แค่ก้อนสองก้อน แต่ทำให้ถ่านทั้งกองติดไปไม่ได้ แล้วก็ดันอยากทำบาร์บีคิว ถึงที่บ้านพักจะมีเตาปิ้งให้ แต่ก็ไม่ได้มีคนมายืนจุดเตาถ่านยืนปิ้งให้หรอกนะครับ ก็ผมนี่แหละที่ต้องเป็นคนทำ
จะจุดถ่านให้ติดทั้งกองใจร้อนไม่ได้หรอกครับ ใช่ว่าอาศัยเปลวไฟแรงๆ โหมเข้าไปแล้วไฟมันจะติด ถ่านไม่ระอุนะครับถ้าทำแบบนั้น ต้องค่อยๆ เริ่มจากจุดเชื้อให้ไปติดกับถ่านชิ้นเล็กๆ พัดให้ลมมันเข้า พอได้ที่แล้วถึงค่อยๆ เติมถ่านก้อนใหญ่ๆ ต่างหาก ซึ่งคนใจร้อนมักจะอาศัยกองถ่านสุมๆ จนลมไม่เดิน แล้วถ่านมันก็จะติดไฟยากครับ ผมบอกแล้วว่าการจุดถ่านเนี่ยต้องใจเย็นๆ
ถามว่าผมจุดถ่านเป็นได้ยังไงน่ะเหรอครับ เฮอะ! ไปขอบคุณหลักสูตรลูกสะใภ้คุณนายรัตนาแม่ของพี่ชัชเถอะครับ ปีที่ผ่านมาผมถูกลากกลับบ้านนอกของพี่ชัชที่ลำปางอีกแล้วครับ และแน่นอน ผมถูก “สอน” มาหลายอย่างเลยแหละครับ หนึ่งในนั้นก็คือการที่ต้องนั่งจุดเตาถ่านก่อไฟจี่แอ็บแบบบ้านนอกของแท้! อาหารอะไรก็ไม่รู้ ให้ตายเหอะ! ดีนะครับที่ผมเป็นผู้ชายไม่อย่างนั้นคุณป้าแกคงสอนผมนุ่งผ้าถุงห่มสไบรำผีปู่ย่าไปแล้ว
“ต้นเก่งจัง ทำไรก็เป็นไปหมดเลย”
เมย์ยืนชมผมอยู่ข้างๆ ผมก็เลยหันไปยิ้มให้เมย์
“ว่าแต่แล้วป่านกับไปป์ละ สองคนนั้นไปไหน”
“ขึ้นไปตามแล้ว แต่กำลังยุ่งอยู่มั้ง ไม่รู้ทำไรกันอยู่”
เมย์รับคำผมไม่ได้พูดอะไรต่อ ผมก็ยืนร้อนอยู่หน้าเตาทำบาบีคิวปิ้งย่างซีฟูดไปเรื่อยแหละครับ จนกระทั่งไปป์มาสะกิดผม
“ต้นๆ”
“มีอะไรเหรอ?”
“เอ่อ ขอคุยด้วยหน่อยดิ”
“จะเอาไรเหรอ?”
“เปล่าๆ คุยเรื่องอื่นอ่ะ”
เสียงของไปป์ฟังดูแปลกๆ พยักเพยิดให้ผมเดินตามไปยังไงชอบกล ผมตัดสินใจวางมือจากการเป็นพ่อครัวหน้าเตาแล้วฝากให้แก้วช่วยดูแลแทน
ไปป์ลากผมเข้าไปในบ้านแล้วตรงไปยังห้องนอนของพวกผู้หญิง ป่านก็รออยู่ในนั้นด้วย พอดูดีๆ ว่าไม่มีใครอยู่แล้ว ป่านก็ทำท่าพิลึกๆ สะกิดให้ไปป์เป็นคนพูด ผมไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ดูแล้วบรรยากาศไม่ดีเลยครับ ไปป์ดูอึกอักน้ำท่วมปากยังไงพิกล
“มีอะไรเหรอ ลากเรามาถึงนี่ พวกนายไม่ลงไปกินอาหารเย็นเหรอ”
“เอ่อ ต้น ป่านเขาอยากคืนกล้องให้นาย”
“อ้าว ก็อปรูปเสร็จแล้วเหรอ”
ผมรับกล้องมาจากมือไปป์ไม่ได้คิดอะไร ตั้งใจว่าจะเอาไปเก็บก่อน แต่ประโยคถัดมาของไปป์นี่สิครับ ทำเอาผมชะงักไปนิดหน่อย
“อืม ... นา... นายคงไม่รู้สินะว่าในนั้นมีภาพที่นายถ่ายก่อนที่จะมาเที่ยวนี่ด้วย”
“เหรอ”
กล้องผมก็พึ่งจะซื้อใหม่นี่นา? ตอนแรกผมยังไม่ได้รู้สึกอะไรเพราะคิดตามไม่ทัน ก็แค่งงๆ นิดหน่อย แต่ว่าพอตั้งสติได้แล้วมาลองนึกดูดีๆ ผมชาวาบไปทั้งตัวเลยครับ ผมเดาได้แล้วว่าทำไมสองคนนี้ถึงได้ทำตัวผิดปกติกับผมแบบนี้
“นายเห็นอะไรบ้าง?”
ผมหลุดปากออกไปด้วยเสียงที่แทบเป็นโทนตะคอกหากแต่มันกลับเบาหวิวเพราะก้อนอะไรบางอย่างที่จุกขึ้นมาในลำคอ!
“เอ้ย! พวกเราไม่เห็นอะไรนะ มันไม่มีภาพหรอกมีแต่เสียง!”
“ไอ้บ้าไปป์ แกจะไปบอกต้นมันทำไม!”
“พวกนายดู?”
เสียงของผมเบาแทบไม่ต่างอะไรกับการกระซิบ ผมแทบล้มทั้งยืน เวลาดารามีข่าวภาพหลุดมันรู้สึกแบบนี้นี่เองครับ อย่างกับพื้นที่เรายืนอยู่มันหายไปในพริบตา
หมดกัน พวกเขาเห็น ผม... ผมพูดอะไรไม่ออกรู้แต่ว่าตอนนี้ผมโกรธพี่ชัชมากๆ อยากกลับไปตบซักสองสามทีครับ ผมบอกพี่ชัชแล้วแท้ๆ ว่าให้ลบออก พี่ชัชต้องลืมแน่ๆ!
ผมพยายามแบกหน้ากากไว้เต็มที่ หวังว่าสีหน้าผมคงจะดูดีพอ หน้ากากใบที่หนาที่สุดถูกเรียกขึ้นมาสวมใส่กลบความอายของผมครับ ถึงผมจะไม่อายที่ผมเป็นเกย์ แต่ผมไม่ใช่พวกโรคจิตถึงจะได้ชอบโชว์ฉากอย่างว่าของตัวเองให้ใครดู!
“ขอโทษเราไม่ได้ตั้งใจ เรานึกว่าเป็นคลิปที่นายเล่นกีต้าร์เมื่อตอนกลางวันกับพัท”
ป่านรีบแก้ตัวกับผมทันที คงกลัวว่าผมจะโกรธมั้งครับ ผมไม่โกรธหรอก ถ้าจะมีใครที่ผมโกรธมากที่สุดก็ต้องเป็นแฟนงี่เง่าของผมนั่นแหละ!
“ช่างเถอะ มันไม่สำคัญอะไรหรอก ขอบคุณพวกนายมากนะที่บอกให้เรารู้ตัว จะได้ลบมันทิ้งซะ”
“งั้นตกลงนายเป็นเกย์จริงๆ ใช่ป่ะ คนในคลิปนั่นอ่ะ แฟนนายใช่มั้ย?”
“ไอ้ไปป์!”
ทันทีที่ผมบอกว่าไม่เป็นไรจบประโยค ไปป์ก็แทรกขึ้นอย่างไม่ดูกาลเทศะ ส่งผลให้ป่านตบหัวไปป์ไปเบาๆ ทีนึง ผมว่ายังน้อยไปนะครับ จะมาถามอะไรเอาตอนนี้ ดูสีหน้าผมบ้างเถอะ! ถึงผมจะไม่เห็นหน้าตัวเองในกระจกแต่มันต้องแดงมากแน่ๆ ผมร้อนซู่ไปถึงใบหูเลยครับ
ถามมาได้ว่าแฟนรึเปล่า? ถ้าไม่ใช่แฟนแล้วคนข้างบ้านรึยังไงครับ ผมไม่ได้มั่วพอที่จะทำอะไรแบบนั้นกับใครก็ได้นะ! ถึงพี่ชัชจะเคยเป็นพี่ชายห้องข้างๆ ของผมมาก่อนที่เราจะอยู่ด้วยกันก็เถอะ
“ไหนว่าไม่เห็นไง”
“ก็ไม่เห็นไง ได้ยินแต่เสียง เห็นนายแฟนนายไม่ชัดหรอก แต่ได้ยินเสียงนายร้องชัดมากๆ เห็นหน้านายด้วย”
คำพูดตรงๆ ของไปป์ทำให้ผมอายมากยิ่งขึ้น ผมไม่รู้ว่าควรจะทำตัวยังไงดีครับ บางครั้งความซื่อของไปป์ที่ไม่มีพิษมีภัยก็มีอำนาจทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นอย่างร้ายกาจ
“ขอบคุณนะ แต่ทีหลังไม่ต้องบรรยายขนาดนั้นก็ได้ เราก็อายเป็นนะไปป์”
“ต้นนี่ขี้อายจริงๆ ด้วยแฮะ เหมือนที่เพื่อนต้นบอกเลย”
“ช่างเถอะ มีเรื่องแค่นี้ใช่มั้ยเราขอตัวก่อน”
ผมไม่ไหวแล้วครับ ถ้าตัวเองมุดดินหนีได้คงอยากจะมุดหายไปตรงนี้เลย อายจนแทบเอาหน้าแทรกแผ่นดิน ผมอยากจะหนีไปตั้งสติตัวเองซักพักก่อน ไม่งั้นผมสู้หน้าสองคนนี้ไม่ไหวแน่ๆ ดีนะครับที่เป็นป่านกับไปป์ ถ้าเป็นคนอื่นคงเรื่องยุ่งมากกว่านี้
แต่แล้วเสียงของป่านก็ดับความหวังผม
“เอ่อ... ต้น คือเรายังมีเรื่องจะบอกอีกเรื่องนึงก่อน”
“มีอะไรอีกเหรอ”
ผมตอบพร้อมกับเสมองหัวแม่โป้งตัวเองบนพื้น ผมไม่กล้าสู้หน้าสบตาสองคนนี้หรอกครับ แม้จะรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องมาอย่างมุ่งมั่นของไปป์ก็ตาม
“คือ ก่อนหน้านี้อ่ะ เราไม่แน่ใจว่า... คือเมื่อกี้นนมันก็มาขอเซฟรูปไปเหมือนกัน เราบอกว่าอยากได้กล้องไหนก็หยิบไป คือเราไม่แน่ใจว่ามันจะเอาไฟล์ในกล้องแกไปด้วยมั้ย?”
ผมอยากจะหลุดคำสบถแรงๆ อะไรก็ได้มาซักคำ อยากจะกรีดร้องอะไรก็ได้ออกมาซักประโยค ผม.... แต่ทำไมผมรู้สึกหน้ามืดแบบนี้นะ
“เฮ้ย ต้นๆ ระวังๆ”
“ทำใจดีไว้นะต้น”
“ไอ้ไปป์ ต้นมันยังไม่ตาย มันแค่หน้ามืด”
2P คู่หูตัวป่วนช่วยกันพยุงผมไปนั่งบนเตียง ป่านรีบไปค้นหายาดมมาให้ผม แต่ผมรู้สึกแย่มากๆ ครับ พอๆ กับตอนที่ผมโดนประจานในห้องเรียนคราวก่อนเลย แต่ต่างกันตรงที่ว่าคราวนี้มันน่าอับอายกว่าและไม่ได้ดราม่าแบบคราวนั้น มิหนำซ้ำ ตัวผมยังไม่ได้เป็นลมขาดสติไปเลยต้องมานั่งมีสติรับรู้ความอับอายที่เกิดขึ้น
ผมพยายามคิดทบทวนดูว่าผมควรจะทำอะไรก่อนเป็นอันดับแรก ผมพยายามนึกถึงนน ผมคิดหาข้อแก้ตัว สมมุติเหตุการณ์ต่างๆ นานา หาสมมุติฐานที่จะเกิดขึ้น แต่นึกอะไรไม่ออกเลยครับ นึกได้แต่... คำด่าชั่วร้ายที่ผมอยากด่าพี่ชัช! พี่ชัชบ้า ทำแบบนี้ได้ยังไง! พี่ชัชงี่เง่า!
“แกใจเย็นๆ นะ นนมันอาจจะแค่ก็อปไปเฉยๆ แล้วยังไม่ได้ดูก็ได้ ไม่ก็มันอาจจะไม่ได้เอาไฟล์จากกล้องแกไปเลยก็ได้นะ”
ป่านพยายามปลอบใจผม ผมเองก็พยายามคิดในแง่ดี พอนั่งตั้งสติได้ซักพัก ผมก็รู้สึกดีขึ้น ผมขอตัวกับสองคนนั้น
“แกจะไปไหนอ่ะ”
“ไปคุยกับนน”
“เอ้ย เอาจริงเหรอแก”
“ก็คงดีกว่าให้ใครต่อใครมาดูล่ะ”
ดูป่านเกร็งๆ คงเพราะตอนนี้ผมทำสีหน้าแบบอยากจะฆ่าคนเต็มที่มั้งครับ
“นายอายที่เป็นเกย์ขนาดนั้นเลยเหรอต้น?”
“เป็นเกย์กับถูกเห็นเวลาส่วนตัวมันคนละเรื่องกันนะไปป์ เราไม่ใช่ดาราหนังโป๊ เราไม่อายที่เป็นเกย์ แต่เราอายถ้าจะมีใครมาเห็นภาพไม่เหมาะสมของเราแบบนั้น แล้วมันก็เป็นเรื่องระหว่างคนสองคนด้วย ไม่ใช่เรื่องที่ควรเอาไปเปิดเผยให้คนนอกเข้ามายุ่ง”
ผมตอบกลับไปแบบเรียบๆ โชคดีที่ผมบังคับน้ำเสียงของตัวเองได้แล้ว เสียงของผมเลยกลับมาสงบได้เหมือนเดิม พอไปป์เจอโหมดซีเรียสของผมเข้าไปแบบนี้ ไปป์ก็ไปป์เถอะครับ มีหงอเหมือนกัน
“เราขอโทษ”
“ช่างเถอะ นายไม่ใช่คนผิด เราขอตัวก่อนนะ”
ถึงผมจะพูดแบบนั้น... แต่ผมจะจัดการกับนนยังไงดีล่ะ ความเป็นไปได้มันมีเยอะนะครับ ก่อนอื่นคงต้องลองเชิงดูก่อนละมั้งครับ ผมเดินไปทางโต๊ะอาหารหน้าบ้านพัก พวกเราส่วนมากก็ยืนกินอาหารปิ้งย่างนั่งเม้าท์กันอยู่ตรงนี้แหละครับ ผมมองหานน แต่ไม่เห็นครับ แม้แต่เอกเพื่อนสนิทของนนก็ไม่เห็น
ผมตัดสินใจเดินไปถามมิวนิค
“มิวนิค นายเห็นนนมั้ย?”
“ไอ้นนเหรอ ทำไมอ่ะ มีไร?”
“เปล่าไม่มีไร พอดีมีธุระนิดหน่อย”
“ไม่รู้ดิ ไปเข้าห้องน้ำมั้ง มึงอ่ะมาปิ้งหอยแครงให้กูต่อเลย เมย์มันย่างไม่เป็น ออกมาไม่สุกซักตัว”
ไอ้ยักษ์นี่ก็หวงแต่กิน!
ผมยิ้มให้มิวนิคแล้วเดินไปหานนต่อในบ้าน นนเลือกนอนคนละห้องกับผมครับ พวกผมสามคน กับมิวนิค เป้ นัน โค่ อัฐ แล้วก็พัทเลือกนอนห้องใหญ่ครับ เป็นชั้นบนสุดใต้หลังคามีระเบียงสวยๆ แบบเปิดอยู่ใต้จั่วพอดี แค่ขึ้นบันไดไปก็เจอเลย ทั้งชั้นโล่งๆ ไม่มีแอร์มีแต่พัดลม ส่วนรุ่นพี่อีกสามคนแล้วก็เอกกับนน นอนห้องเล็กครับ เบียดกันหน่อยแต่มีแอร์ อยู่ชั้นสองชั้นเดียวกับห้องสามสาว ส่วนชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่นแล้วก็ครัวกับห้องน้ำครับ
เมื่อกี้ตอนที่อยู่ตรงโต๊ะบาบีคิวนั้น ผมไม่เห็นพี่เบียร์เหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าอยู่ในห้องรึเปล่า แต่พี่ณตกับพี่โอนั่งพ่นควันอยู่หลังบ้านกับพัท นอกนั้นพวกแก๊งค์มิวนิค ผมว่าน่าจะอยู่กันครบมั้งครับ ไม่ได้มอง
ผมออกมาจากห้องของสามสาว เลยเลือกเดินไปดูในห้องตัวเองก่อน มีคนเข้าห้องน้ำอยู่ แต่เป็นอัฐครับ เหลืออยู่ห้องเดียวที่ผมจะไปดู ให้ตายสิ!
ผมยืนขาสั่นอยู่หน้าห้องของพวกรุ่นพี่ ผมตัดสินใจยกมือขึ้นเคาะประตู สักพักหนึ่งก็มีคนเดินมาเปิดให้ผม
“อ้าวต้น มีไรเหรอ”
“เอ่อ ผมมาหานนครับ นนอยู่ในห้องรึเปล่าครับพี่เบียร์”
“เออ มันเข้าห้องน้ำอยู่ เข้ามาก่อนดิ”
ผมเข้าไปนั่งรอในห้องครับ เอกก็อยู่ด้วย กำลังยุ่งอยู่กับสายชาร์ทโทรศัพท์อยู่ พี่เบียร์เปิดแอร์เย็นเจี๊ยบเลย ทำให้ผมที่ใส่เสื้อแขนสั้นกับกางเกงขาสั้นเริ่มรู้สึกหนาวๆ ขึ้นมานิดหน่อยจนต้องลูบผิว
“หนาวเหรอ?”
พี่เบียร์ถามยิ้มๆ พร้อมกับเดินไปกดลดแอร์ให้ ผมเลยส่งยิ้มตอบกลับไป ไม่นานนักนนก็เดินออกมาจากห้องน้ำ ผมเหล่มองแขกร่วมห้องอย่างชั่งใจ พี่เบียร์เหมือนกำลังทำอะไรซักอย่าง เพราะโน้ตบุ๊คที่กำลังเปิดคาไว้มีเสียงเอฟเฟ็คออกมาด้วยครับ คงเล่นเกมอยู่มั้ง? แต่เอาเถอะครับในเมื่อมันจำเป็น!
“มาหากูมีไรป่ะวะ? สงสัยกูจะท้องเสียว่ะแม่ง ปวดท้อง”
“เอายามั้ย เรามีติดมา”
“เออมึงมีเหรอ เอามาหน่อยดิ”
“อยู่ข้างบนในกระเป๋าอ่ะ นายไปเอากับเราสิ”
นนมองหน้าผมแปปนึงก่อนจะบ่นออกมานิดหน่อยพลางเดินตามผมขึ้นไปยังชั้นสาม ผมหยิบยาให้นนแล้วก็เอ่ยปากถามในที่สุด
“เอ่อ นน นาย... ป่านบอกว่านายก็อปรูปจากกล้องคนอื่นไปเก็บรวมไว้เหรอ? นายได้แบคอัพรูปจากกล้องเราไว้มั้ย?”
“ถามทำไมวะ?”
นนที่กำลังรับยาไปจากมือผมหันมามองหน้าผมด้วยสายตาแปลกๆ ปนสงสัย
“เปล่า ก็ถ้านายเก็บไว้แล้วเราจะได้ลบในกล้องทิ้งไง เหมือนเราจะเอาเมมมาไม่พอน่ะ”
นนทำหน้างงๆ อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า
“เปล่าว่ะ ตอนแรกกูว่าจะก็อปลงอยู่หรอก นึกว่าโน้ตบุคไอ้เอก ปรากฏว่าเป็นของพี่เบียร์ เราเลยไม่ได้เอาลง”
ผมยิ้มออกมาทันที สบายใจแล้วครับ
“เหรอ งั้นเดี๋ยวเราบอกให้ป่านแบคอัพให้เราเอาก็ได้”
“ไม่ใช่ป่านมันทำไปให้ละเหรอ”
“อ้าวเหรอ ไม่รู้สิ ช่างมันเถอะ งั้นเราไปก่อนนะ พวกข้างล่างบ่นกันใหญ่แล้ว ไปช้าเดี๋ยวไม่มีไรเหลือให้กิน”
ไม่มีอะไรน่ากลัวสำหรับผมแล้วครับ ผมสบายใจแล้ว ผมคว้ากล้องมาแล้วกดฟอร์แมททันที ถึงยังไง รูปส่วนนึงก็อยู่ในเครื่องป่านอยู่แล้ว จะไปขอเมื่อไหร่ก็ได้ครับ ตอนนี้ผมควรรีบกำจัดไฟล์อุบาทว์ในเมโมรี่นี้ไปให้เร็วที่สุดก่อนดีกว่า
แล้วผมก็สนุกกับมื้อค่ำ ปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ริมหาดครับ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++