
Drama Queen & Dump King
The story after that. - ตอนพิเศษ 1
ต้นน้ำไม่แน่ใจว่าควรจะทำอย่างไรดี เด็กหนุ่มพยายามเสริชหาวิธีผูกเนคไทในอินเตอร์เน็ทแล้ว แต่พอลองทำเข้าจริงๆ มันกลับยากกว่าที่เห็น เขาเข้าใจวิธีการแต่กลับผูกออกมาได้ไม่สวยงามตามภาพ เนคไทที่เขาพยายามผูกกลับดูบิดเบี้ยวผิดรูปเหมือนปมเชือกเสียมากกว่า
จนกระทั่งสัญญาณกริ่งจากหน้าประตูดังขึ้นพร้อมกับเสียงของคนคุ้นเคย เด็กหนุ่มจึงได้สติ เขาคร่ำเคร่งกับการผูกเนคไทมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว!
“ทำไรอยู่ครับต้น พี่เคาะตั้งนาน”
“ขอโทษครับ ผมยุ่งๆ อยู่นิดหน่อย”
เด็กหนุ่มขอโทษพลางเปิดประตูให้ชัยชัชเข้ามาในห้องของตน
“อ้าว ยุ่งมากป่าว งั้นพี่ไม่กวนก็ได้นะ”
แม้ปากจะพูดเช่นนั้น แต่ชายหนุ่มกลับเดินไปเอกเขนกบนโซฟารับแขกเสียแล้ว ต้นน้ำยิ้มให้ชัยชัชก่อนจะเดินไปรินน้ำดื่มเย็นๆ มาเสริฟให้แฟนของตน
มือของชัยชัชปลดเนคไทของตนออกพลางเปลื้องกระดุมเสื้อบางเม็ดก่อนจะบ่นตามความเคยชิน โดยมีสายตาของต้นน้ำมองตามทุกการกระทำ
“โครตหิวเลยว่ะต้น มีไรให้พี่กินบ้างป่าว?”
เด็กหนุ่มลืมไปเสียสนิท เขาไม่ได้เตรียมอะไรไว้ให้ชัยชัชเพราะมัวแต่คร่ำเคร่งกับการหัดผูกเนคไทจน ลืมเวลา แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่ได้ทานอาหารเย็นด้วยเช่นกัน
“ผม... ขอโทษนะครับพี่ชัช ผมยังไม่ได้เตรียมอะไรไว้เลย”
“อือๆ ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวพี่ไปหาไรกินร้านใกล้ๆ นี้ก็ได้ แล้วเราอ่ะ ไปนั่งกินขนมกับพี่มั้ยครับ?”
ชัยชัชไม่โกรธต้นน้ำเลยสักนิด เด็กหนุ่มรู้สึกว่าตนช่างโชคดีที่แฟนหนุ่มเป็นคนง่ายๆ ไม่เรื่องมาก
“เอ่อ ผมยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกันเลยครับ พอดีวันนี้ผมยุ่งๆ อยู่ก็เลย”
“เห? ยุ่งเรื่องไรอยู่ครับเนี่ย เพลินจนต้นลืมทานข้าว?”
ชัยชัชชวนสนทนาไปตามเรื่องไม่ได้คิดอะไรมาก แต่แล้วกลับพบว่าแฟนเด็กของตนนั่งหน้าแดงโดยไม่ยอมตอบคำถาม อารมณ์สงสัยของเขาดิ้นรนเอาชนะความหิวจนได้ ชายหนุ่มรู้ดีว่ามีเรื่องสนุกๆ กำลังรอเขาอยู่
“แอบทำไรอยู่ครับที่รัก พี่ถามทำไมไม่ตอบ ทำไรอยู่ฮึ?”
คงเพราะคำถามถูกส่งมาพร้อมๆ กับอ้อมกอดจากชายคนรัก ต้นน้ำจึงรู้สึกประหม่าเหมือนถูกจับผิด โดยเฉพาะเมื่อนึกถึงว่าตนเผลอมองชัยชัชอย่างผิดปกติก็ชวนให้ใบหน้าที่แดงระ เรื่ออยู่แล้วขึ้นสีจัดมากกว่าเดิม
“ผมไม่ได้แอบทำอะไรไม่ดีนะครับ”
ต้นน้ำตอบพร้อมกับก้มลงซ่อนความอายไว้ ไม่กล้าหันไปเผชิญหน้ากับแฟนหนุ่ม ทำให้ชัยชัชรู้สึกถูกใจมากกว่าเดิม เขาต้องการที่จะรุกเด็กหนุ่มให้มากกว่านี้
“ไม่ได้แอบทำไรไม่ดีแล้วทำไมต้องหลบตาพี่ครับ ไหนสารภาพมาสิ?”
เขากล่าวพร้อมกับเชยคางของต้นน้ำให้มาประสานสายตากัน ใบหน้าของคนรักที่ขึ้นสีไม่กล้าสบตานั้นช่างดูแล้วเกินหักห้ามใจ แต่พอเขาก้มลงจะประทับจุมพิตให้ต้นน้ำก็ขัดขืนเบี่ยงหลบไปเสียก่อน
“อย่าสิครับพี่ชัช”
“ทำไมละครับ ขอหอมหน่อยไม่ได้เหรอ?”
“ก็เมื่อกี้พี่ชัชไม่ได้จะหอมผม”
ต้นน้ำประท้วงขึ้นด้วยความกระดากอาย ถึงแม้เขาจะเป็นของชัยชัชโดยสมบรูณ์ด้วยความเต็มใจแล้ว แต่เด็กหนุ่มก็ยังไม่ชินกับการรุกล้ำอันแสนหวานของแฟนหนุ่มเลยแม้แต่น้อย
เพียงแค่สัมผัสเบาๆ ก็ทำให้เขาเกิดความร้อนรุ่มอันน่าประหลาด เขาไม่พร้อมจะถูกแผดเผาด้วยไฟราคะที่ไร้หนทางจะขัดขืนนี้
แม้จะเป็นเพียงแค่สัมผัสหยอกล้อเบาๆ จากชัยชัช แต่สำหรับต้นน้ำมันคือสัมผัสที่ทำให้ตัวเขาตื่นตัวเกินห้ามใจ
“งั้นก็บอกพี่มาก่อนว่าเมื่อกี้ทำไรอยู่ครับ? ไม่บอกพี่จูบจริงๆ ด้วย จูบแบบเฟรนช์คิสเลยเอ้า”
ชัยชัชเรียนรู้แล้วว่าสุดที่รักของเขาเองก็มีอารมณ์ เพียงแต่ที่ผ่านมาต้นน้ำพยายามเก็บกักมันไว้ไม่ปล่อยให้ตัวเองหลอมละลายไป กับสัมผัสของเขา ทว่านับตั้งแต่ที่เขาได้สัมผัสต้นน้ำอย่างเต็มที่ในคืนวันนั้น ดูเหมือนต้นน้ำจะไวต่อการสัมผัสของเขามากขึ้น
ทั้งๆ ที่เป็นเช่นนั้นแต่เด็กหนุ่มกลับพยายามเว้นระยะห่างกับเขามากกว่าเดิม ท่าทางเขินอายบอกให้เขารู้ว่าต้นน้ำเป็นลูกแกะน้อยขี้ขลาด แต่ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ หมาป่าจอมโฉดได้ใจเสียแล้ว เนื้อหวานๆ ของลูกแกะซื่อๆ ช่างอร่อยนัก ลิ้มรสเพียงครั้งก็ยากจะหักห้ามใจไม่ให้กระหายอีก พาลต้องคิดหาวิธีชิมอีกจนได้
ลูกแกะน้อยเองก็รู้ตัวจึงพยายามสุดฤทธิ์เท่าที่จะทำได้เพื่อไม่เอาตัวเองไป เสริฟอยู่บนจานให้หมาป่าจอมโฉด เจ้าแกะน้อยรู้ดีว่าหาใช่แต่หมาป่าคนเดียวที่ติดใจ!
“ถ้า... ถ้าผมบอกแล้วพี่ชัชห้ามหัวเราะนะครับ ถ้าพี่ชัชไม่สัญญาผมไม่บอกจริงๆ ด้วย”
“ทำไมพี่ต้องสัญญาด้วยล่ะ พี่ถามต้นก่อนนะ ไม่ยอมบอกกันแบบนี้อยากให้พี่จูบเราใช่ป่าวครับ?”
พร้อมๆ กับที่พูดริมฝีปากของชัยชัชก็จู่โจมซุกไซ้เข้ามาจนต้นน้ำตั้งตัวไม่ติด
“บอกแล้วๆ ครับ”
เด็กหนุ่มหอบหน้าแดงก่ำทั้งอายทั้งเขิน ในเมื่อยามนี้นั้นตนถูกผลักเอนราบกับโซฟาโดยมีชัยชัชคร่อมไว้ สายตาวิบวับชวนละลายนั่นทำให้เขาไม่กล้าแม้แต่จะมอง ริมฝีปากที่ชอบยิ้มกว้างนั่นก็ทำให้เขาร้อนซู่ไปทั้งใบหน้าเมื่อนึกถึงว่า เขาเคยถูกริมฝีปากนั้นกระทำการใดๆ ไว้บ้าง
เด็กหนุ่มเสมองไปทางอื่นด้วยใบหน้าขึ้นสีที่พยายามทำหน้าตายให้ดูปกติที่สุดแล้วเอ่ยเสียงอ้อมแอ้มว่า
“ผมพยายามผูกเนคไทอยู่ครับ”
“หือ? อะไรนะครับ?”
“ผมพยายามหัดผูกเนคไทอยู่ครับ พรุ่งนี้ผมต้องใส่ชุดนิสิตแล้ว”
“ผูกไทด์เนี่ยนะ?”
“ครับ”
“แล้ว?....”
“กำลังหัดอยู่ครับ”
“อุ๊บ! ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ผูกไทเนี่ยนะต้น ยุ่งมาก?”
“ก็ผมผูกไม่เป็นนี่ ไม่เคยมีใครสอนผมซักหน่อย พี่ชัชสัญญาแล้วนะครับว่าจะไม่หัวเราะ”
เสียงหัวเราะดังสนั่นของชัยชัชทำให้ต้นน้ำอายมากกว่าถูกลวนลามตะกี้เสียอีก เด็กหนุ่มทั้งโกรธทั้งอาย
“โอ๋ๆ พี่ขอโทษ อย่าโกรธพี่เลยนะครับ เอาน่าๆ เรื่องแค่นี้เอง”
“แค่นี้ที่ไหนกันละครับ ผมพยายามตั้งนาน ไม่เห็นออกมาสวยซักที”
คงเพราะทิฐิที่เกิดขึ้นกระทันหันต้นน้ำจึงดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างงอนๆ แก้มที่ป่องเล็กน้อยกับหัวคิ้วที่ขมวดกันเป็นปมทำให้ชัยชัชรู้ได้ว่าแฟนของ เขากำลังซีเรียส ชายหนุ่มโอบคนประสบการณ์น้อยกว่าไว้ในอ้อมแขนพลางเอ่ยปลอบ
“ทำไมไม่มาถามพี่ล่ะ พี่สอนให้ก็ได้”
“ก็มันน่าอายนี่ครับ ขนาดพี่ชัชยังผูกเป็นเลย แต่ผมพยายามแล้วตั้งนานกลับทำไม่ได้ซักที”
“ไม่มีใครทำอะไรเป็นมาแต่เกิดหรอกนะต้น พี่ก็เคยให้คนอื่นสอนมาก่อนเหมือนกัน พี่ผูกไทด์ทำงานมากี่ปีแล้วล่ะ? เราจะมาเทียบพี่ได้ไงเดี๋ยวผูกบ่อยๆ ก็ทำสวยเองแหละ”
“แต่ผมกลัวพี่ชัชหัวเราะผมนี่ แล้วพี่ชัชก็ขำผมจริงๆ ด้วย”
“ก็พี่ขำที่เราดันมาอายเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้น่ะสิ ถ้ามาถามพี่แต่แรกดีๆ พี่ก็ไม่ขำหรอก”
“ก็ไทด์ที่ผมผูกมันน่าอายมากนี่ครับ ผมไม่อยากให้พี่ชัชเห็นนี่”
“ขนาดนั้นเลย?”
เด็กหนุ่มไม่ตอบแต่อาการพยักหน้าน้อยๆ นั่นก็ชวนให้ชัยชัชเอ็นดู
“งั้นไปเอามาให้พี่ดูมา พี่จะได้สอนเรา”
“แล้วพี่ชัชไม่ไปทานข้าวเหรอครับ ไหนบอกหิว”
“เดี๋ยวค่อยไปหาไรกินด้วยกันก็ได้ ไม่นานหรอก ไปเอามาเร็ว มาผูกให้พี่ดูพี่จะได้สอน”
“งั้นรอผมแป๊ปนึงนะครับ ผมวางไว้ในห้องนอน เดี๋ยวผมไปเอาก่อน”
“เออไม่ต้องละ พี่ไปสอนเราในนั้นดีกว่าจะได้มีกระจกด้วย”
ต้นน้ำหันมามองชัยชัชด้วยสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็พาชายหนุ่มเข้าไปในห้อง นอนของตัวเอง เขาเริ่มผูกไนคไทตามวิธีที่เรียนรู้มาจากในอินเตอร์เน็ทให้ชัยชัชดูก่อน ปมที่ขมวดแน่นจนเบี้ยวนั้นดูประหลาด แต่ชัยชัชก็อธิบายไม่ได้เหมือนกันว่าต้นน้ำพลาดในขั้นตอนไหน ชายหนุ่มจึงเริ่มลงมือผูกเนคไทให้ต้นน้ำดู
เด็กหนุ่มพยายามทำตามชัยชัชทุกขั้นตอน แต่จนแล้วจนรอดท่าทางเก้ๆ กังๆ ปนกับหัวคิ้วยุ่งๆ ของต้นน้ำก็ชวนให้ชัยชัชเพลีย ชายหนุ่มจึงเรียกต้นน้ำมาหน้ากระจกแล้วก้าวมายืนด้านหลังพลางจับสองมือของ ต้นน้ำผูกไทด์แบบที่เขาทำตามปกติแทน
“ทำไมต้องสอนแบบนี้ด้วยละครับพี่ชัช”
ต้นน้ำเอ่ยถามด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ระยะที่ชิดใกล้กันแบบนี้ชวนให้เขาเขินอาย กลิ่นเหงื่อผสมกับกลิ่นโคโลญจน์ของชัยชัชทำให้เด็กหนุ่มรู้สึกวาบหวิว
“ก็พี่ถนัดแต่ผูกเองนี่นา ทำให้คนอื่นไม่เป็นว่ะ พี่ไม่รู้ด้วยว่าเราพลาดตรงไหน เชื่อพี่ทำตามพี่แบบนี้แหละเดี๋ยวก็เป็น”
แม้ในตอนแรกต้นน้ำจะกังขากับวิธีสอนแปลกๆ ของชัยชัช แต่เขาก็ยอมให้ชายหนุ่มควบคุมมือของตนไปตามเสต็ปต่างๆ และเมื่อชายหนุ่มค่อยๆ สอนเขาทีละขั้นตอนจนได้เนคไทที่ออกมาสวยกว่าทุกครั้งที่เขาเคยผูก ต้นน้ำก็ตาเป็นประกาย
ชัยชัชชักนำต้นน้ำอยู่ราวๆ สองสามรอบจนเด็กหนุ่มเริ่มคล่อง
แต่แล้วภาพของเด็กหนุ่มที่ตั้งใจมองตามทุกจังหวะการเคลื่อนไหวของมือเขาก็ทำ ให้ชัยชัชหลงใหล สายตาของลูกแกะแสนซื่อตัวนี้ช่างดึงดูดเขาได้มากเหลือเกิน โดยเฉพาะเวลาที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวเช่นนี้
ความคิดเกิดขึ้นในหัว ความต้องการเกิดกับร่าง บางส่วนจึงเกิดปฏิกิริยา
“พะ พี่ชัชครับ?”
ภาพของต้นน้ำที่ชะงักไปแล้วเรียกชื่อเขาด้วยเสียงสั่นๆ ทำให้ชัยชัชแทบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่ แฟนของเขากำลังหน้าแดงจนถึงใบหู ต้นน้ำก้มหน้าลงไม่กล้าสบตากับภาพสะท้อนของเขาในกระจก ชัยชัชแทบคลั่งเพราะความปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในร่างกาย
“ไม่ต้องใกล้กันขนาดนี้ก็ได้มั้งครับ เอ่อ ผมพอจะเป็นแล้วด้วยขอผมลองทำเองนะครับ”
ต้นน้ำพูดพร้อมกับขืนตัวออก แต่วงแขนที่พาดไหล่ของชัยชัชกลับตวัดรวบเอาต้นน้ำขึ้นไปนั่งตักบนเตียงด้วยกัน
“พี่ชัช!”
“ตรงนี้ก็เห็นกระจกครับ”
เสียงทุ้มๆ ที่ชัยชัชกระซิบอยู่ริมหูทำให้ต้นน้ำแทบขาดใจ เด็กหนุ่มว้าวุ่นจนคิดอะไรไม่ออก
“แต่... ตัวผมหนักนะครับ”
“ไม่หนักหรอก พี่ไม่ถือ”
ต้นน้ำหน้าแดงเถือก เด็กหนุ่มก้มหน้าลงต่ำอย่างจนใจ ชายหนุ่มไม่ถือแต่เขาถือ! เขารู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งที่ดันสะโพกของเขาอยู่
“ปล่อยผมลงเถอะครับ”
“ทำไมอ่ะครับ รังเกียจพี่เหรอ ขอกอดกันแค่นี้เอง”
ชัยชัชว่าพลางกระชับวงแขนโอบรอบเอวของต้นน้ำแน่นขึ้น พี่ชัชแกล้งตีหน้าซื่อใส่เขาอีกแล้ว เขาควรจะทำเช่นไรดี?
“ผม... ผมไม่มีสมาธิครับพี่ชัช”
“ทำไมละครับ?”
ชัยชัชกระซิบถามต้นน้ำด้วยเสียงกระเส่าในคอ มือของชายหนุ่มลูบอยู่ตรงสีข้างของเขาจนเด็กหนุ่มเผลอกัดริมฝีปาก
“หยะ อย่าสิครับพี่ชัช”
ต้นน้ำพยายามขัดขืนเบี่ยงตัวออกแต่กรงแขนของชัยชัชก็กักเขาไว้จนดิ้นไม่หลุด
“ทำไมละครับแค่กอดเอง”
ชัยชัชประท้วงพร้อมกับจรดจมูกลงบนแผ่นหลังของต้นน้ำจนเด็กหนุ่มสั่นไปทั้งตัว
“ตะ แต่... แต่ตรงนั้นของพี่ชัช...”
“ก็พี่รักต้นนี่นา เวลาเราอยู่ใกล้กันแบบนี้มันก็ตื่นของมันพี่ห้ามไม่ได้หรอก พี่รับปากเราแล้วพี่ไม่ทำอะไรเราหรอกครับ ถ้าต้นไม่อนุญาตพี่”
ทั้งๆ ที่ปากพูดแบบนั้นแต่ชัยชัชกลับพรมจูบลงบนแผ่นหลังของต้นน้ำ สัมผัสร้อนผ่าวแผ่วเบาบริเวณหลังคอชวนให้เด็กหนุ่มสะท้าน
ต้นน้ำไม่เหลือสมาธิอะไรอีกแล้ว แม้แต่คำพูดโต้ตอบยังจนปัญญา ได้แต่ก้มหน้าลงซ่อนความเขินอาย ริมฝีปากเม้มเข้าหากันด้วยความอดกลั้น เขาไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อยว่าจังหวะหายใจของตนเปลี่ยนไป!
ชัยชัชแย้มยิ้มอย่างสมใจ ดูท่า อาหารเย็นวันนี้เขาจะได้ทานเนื้อแกะรสเลิศเสริฟถึงบนเตียง! อุ้งมือของหมาป่าค่อยๆ ซุกซนแหวกเข้าไปใต้ร่มผ้าของลูกแกะน้อย
“พี่ชัชอย่าสิครับ!”
“ทำไมละครับ พี่อยากสัมผัสเราไม่ได้เหรอ?”
“แต่ แต่ว่า...”
“กลัวพี่เหรอครับ?”
คงเพราะชัยชัชถามด้วยน้ำเสียงตัดพ้อถึงหัวข้ออ่อนไหวบางอย่าง ต้นน้ำจึงละล่ำละลักปฏิเสธ
“เปล่านะครับ!”
“งั้นทำไมละครับ? หรือเพราะครั้งนั้นพี่ทำให้ต้นเจ็บ ต้นเลยไม่รักพี่แล้ว”
เป็นความจริงที่แม้แต่ครั้งที่สองที่ชายหนุ่มตั้งใจเต็มที่ แต่ก็พลาดเพราะเขาคุมตัวเองไม่อยู่ ความสัมพันธ์หนแรกที่เกิดจากความเต็มใจจึงจบลงด้วยเลือดเช่นเคย แม้ไม่มากเท่าครั้งแรกและสุขสันต์กันไปทั้งสองฝ่ายแต่ก็เจ็บปวดมิใช่น้อย ชัยชัชรู้ความผิดพลาดของตัวเองดี เขาคิดมาตลอดว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กหนุ่มบ่ายเบี่ยงตนมาตลอด
สีหน้าและแววตาสำนึกผิดของชัยชัชทำให้ต้นน้ำเกิดความอาทร เด็กหนุ่มมองหน้าคนรักของตนอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะขยับเบี่ยงตัวซบลงบนไหล่ของ อีกฝ่าย ต้นน้ำซุกหน้าลงก่อนจะใช้แขนโอบรอบคอของชายหนุ่มไว้พลางกล่าวด้วยเสียงเบาหวิว
“ผมไม่ได้กลัวพี่ชัชครับ ต่อให้เจ็บกว่านั้นผมก็ทนได้ แต่ว่า... ผม.. ผมอายครับ”
พอได้ฟังคำสารภาพจากปากแฟนเด็ก ชัยชัชก็หลุดขำออกมา ชายหนุ่มลูบหลังปลอบด้วยความเอ็นดู
“อายอะไรครับ”
“ก็ผมเป็นผู้ชาย คงไม่เหมือนผู้หญิง แล้ว... แล้วมันก็”
แทนที่จะพูดจนจบประโยคต้นน้ำกลับซุกหน้าลงแน่นกว่าเดิม เด็กหนุ่มไม่กล้าพูดความในใจ
“คิดมากน่าต้น พี่ไม่ถือหรอก พี่เองก็ห่วยพอกัน ไว้เรามาหัดด้วยกันก็ได้นี่ ค่อยๆ ฝึกไปทีละขั้นตอนดีป่ะ? หรือจะให้พี่ช่วยทำความสะอาดให้ก็ได้นะ ฮ่าๆ”
ต้นน้ำเขินจัดจนพูดอะไรไม่ออกแล้ว เด็กหนุ่มได้แต่ซบลงบนไหล่หนาๆ ของชัยชัช แม้เนคไทที่กำลังหัดผูกจะห้อยอยู่บนคอแต่กลับถูกลืมไปเสียสนิท ในหัวของเด็กหนุ่มตอนนี้มีแค่“พี่ชัช”เพียงเรื่องเดียวเท่านั้น ต้นน้ำรักชัยชัชมากเหลือเกิน
ชัยชัชเกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจอยากปกป้องเจ้าลูกแกะตัวนี้ เขาอยากถนอมบรรยากาศละมุนละไมไว้ให้นานกว่านี้ จึงตัดสินใจสงบสติอารมณ์ของตนเอง
“เอาแต่เขินนะเรา ไหนๆ ดูดิ ผูกไทด์ได้สวยยังครับ?”
ชัยชัชดึงต้นน้ำกลับมาสู่หลักสูตรผูกเนคไทด้วยการแซว ต้นน้ำจึงประท้วงขึ้นอย่างไม่ยอม
“ก็พี่ชัชน่ะแหละ แกล้งผมก่อน”
“ใครบอกว่าพี่แกล้ง เมื่อกี้พี่เอาจริง!”
“พี่ชัช!”
“แต่พี่สงสารลูกแกะตาดำๆ เลยหยุดดีกว่า ฮ่าๆ”
“ไม่เอาแล้วครับ ผมหิวข้าวแล้ว”
ต้นน้ำตัดสินใจเบี่ยงประเด็นในตอนที่ยังมีโอกาส ใครจะไปรู้หากช้ากว่านี้อีกนิด เขาอาจจะกลายเป็นเสต็กเนื้อแกะรอบสองก็ได้ เด็กหนุ่มยกเรื่องอาหารเย็นขึ้นมาอ้าง
“ครับๆ แล้วเราอยากทานอะไรล่ะ ให้พี่พาไปไหนดี? ซีค่อนป่ะ? หรือพาราไดซ์?”
“เอาใกล้ๆ ก็ได้มั้งครับ พรุ่งนี้ผมต้องไปแต่เช้า”
“อืม งั้นร้านนั้นดีป่ะ? ที่พี่พาเราไปครั้งแรก? ใกล้ดี แล้วเดี๋ยวพรุ่งนี้ให้พี่ไปส่งต้นนะครับ”
ชัยชัชอ้อนขอดูแลเด็กหนุ่มอย่างอ่อนหวานจนต้นน้ำรู้สึกตัวลอย เขาชอบเวลาที่ถูกเอาใจเช่นนี้ที่สุด ชัยชัชทำให้เขาละลายได้ด้วยความรักอันอบอุ่น เด็กหนุ่มจึงเผลอตอบไปตามความเคยชิน
“แล้วแต่พี่ชัชครับ”
“คร้าบ ที่รักของพี่”
ชัยชัชยิ้มให้ต้นน้ำอย่างนึกขำ ทั้งขันทั้งเอ็นดู แฟนของเขาเป็นโรค“แล้วแต่พี่ชัช”ไม่เลิก อะไรๆ ก็ตามใจเขาตลอด ชายหนุ่มคิดว่าตนช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้เด็กหนุ่มมาเป็นแฟน
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++